top of page

เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร❓


เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร❓  เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมธนาคารมีลักษณะ และวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่คล้ายๆ กัน เพราะเงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการเป็นเงินเบิกที่คนภายในกิจการต้องนำไปใช้จ่าย แต่ในการทำบัญชีเงินสดทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ดังนั้นในวันนี้ เราจะพานักธุรกิจมือใหม่ทุกคนมาทำความเข้าใจกับเงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการกัน  🔸เงินสดย่อยคืออะไร? เงินสดย่อยคือเงินสดที่ถูกนำมาใช้จ่ายภายในกิจการ ที่ทางกิจการกำหนดไว้ให้พนักงานสามารถขอเบิกเพื่อนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับงานในส่วนต่างๆ ได้ โดยในการใช้จ่าย เงินสดย่อยจะเป็นเงินที่มีจำนวนไม่มากที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างวัน อย่างเช่นค่าเดินทางไปพบลูกค้า ค่าอุปกรณ์ภายในสำนักงาน ค่าส่งเอกสาร พิมพ์เอกสาร ถ่ายเอกสาร หรือจะเป็นค่าอาหารพิเศษสำหรับให้กำลังใจพนักงานก็ได้เช่นกัน  ทั้งนี้จุดเด่นของเงินสดย่อยคือเงินที่นำมาใช้จ่ายได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เจ้านาย หรือผู้บริหารเซ็นอนุมัติก่อนทำการจ่ายเงิน พนักงานสามารถใช้เงินสดย่อยได้ทันที แล้วทำเรื่องขอเบิกเงิ  🔸วิธีจัดการกับเงินสดย่อยที่จะใช้ภายในกิจการ การจัดการกับเงินสดย่อยที่คุณจะต้องนำมาใช้ในกิจการ ก่อนอื่นให้คุณคำนวณงบประมาณเงินสดย่อยที่จะต้องใช้ในแต่ละวัน และประเมินออกมาให้เหมาะสมกับขนาดของกิจการ โดยหากเป็นกิจการขนาดเล็กทั่วไป อาจกำหนดจำนวนเงินสดไว้ที่ 5,000 – 10,000 บาทต่อสัปดาห์ หรือในหนึ่งเดือนก็ได้ตามความเหมาะสม  เมื่อได้จำนวนเงินสดย่อยที่ประมาณการไว้แล้ว ต่อมาให้กำหนดความรับผิดชอบในการถือเงินสดย่อย ในส่วนนี้จะให้พนักงานบัญชี หรือเจ้าของกิจการถือเงินสดย่อยไว้ก็ได้ เพื่อความเป็นระเบียบและสะดวกในการเบิกจ่าย และจัดทำเอกสารต่างๆ คุณควรกำหนดวันที่ที่สามารถทำการเบิกได้ เช่น เบิกทุกวันอังคาร เบิกทุกวันที่ 15 ของเดือน หรือเบิกทุกวันที่ 30 ของเดือน ซึ่งในการเบิก พนักงานจะต้องนำเอกสารหลักฐานอย่างใบเสร็จพร้อมใบเบิกเงินสดย่อยมายื่นให้ผู้ถือเงินสดย่อย เพื่อทำการเบิกเงิน และพนักงานบัญชีจะต้องเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานทางบัญชี  🔸เงินสดย่อยมีผลในกิจการอย่างไร? – เงินสดย่อยจะช่วยลดภาระหน้าที่เล็กน้อยในกิจการลง ลดความล่าช้าในการเบิกเงินเพื่อใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด – ป้องกันการนำเงินสดไปใช้ส่วนตัว เพราะเงินสดย่อยจะสามารถเบิกได้เมื่อมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ภายในกิจการ – ช่วยให้การทำบัญชีง่าย และเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะมีการแบ่งแยกหน้าที่ของเงินในแต่ละส่วนชัดเจน – ลดความเสี่ยงในการทำเงินสูญหาย หรือผิดพลาดในการจัดเก็บ เพราะมีผู้ถือเงินสดแค่คนเดียว และจำนวนเงินก็ไม่ได้มากนัก  🔸เงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร? เงินกู้ยืมกรรมการ สามารถเกิดได้ 2 วิธีหลักๆ คือ เป็นเงินของกิจการที่ให้เจ้าของกิจการยืม หรือเป็นเงินของเจ้าของกิจการเอามาให้กิจการกู้ แต่ส่วนใหญ่แล้วพบว่า เจ้าของกิจการมีการเบิก ยืม หรือนำเงินไปใช้ โดยไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร เพราะไม่ได้นำเอกสารหลักฐานการใช้เงินกลับมาด้วย ต่างจากเงินสดย่อยที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่ามีไว้ทำอะไร และมีหลักฐานการขอเบิกไปใช้จริง  🔸ทำไมถึงเกิดบัญชีเงินกู้ยืมกรรมการ มีหลายกรณีเช่น - ตอนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่ได้จดทะเบียนด้วยเงินทุนที่มีอยู่จริง เช่น มีเงินทุนเพียง 250,000 บาท แต่ขอจดทะเบียนด้วยทุน 1,000,000 บาท ตามที่นิยมจดกัน ทำให้เจ้าของกิจการมีสถานะติดหนี้กิจการ 750,000 บาท ในบัญชีของกิจการ (มูลค่าต่อหุ้นขั้นต่ำที่จดทะเบียนตามกฎหมายเท่ากับ 5 บาท) - เจ้าของกิจการต้องการนำเงินมาใช้ส่วนตัว จึงนำเงินของกิจการออกมาใช้โดยไม่มีเอกสารและหลักฐานว่าเอาไปใช้ทำอะไร - กิจการขาดเงินทุนหมุนเวียน จึงกู้ยืมเงินของเจ้าของกิจการมาใช้ - มีรายได้มากแต่เลี่ยงการลงบัญชีรายได้ของกิจการ เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง - เป็นรายการปรับปรุงทางบัญชีให้สมดุล  🔸ป้องกันการเกิดบัญชีเงินกู้ยืมกรรมการอย่างไรดี? – จดทะเบียนบริษัทด้วยเงินทุนตามจริง – แยกค่าใช้จ่ายภายในกิจการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากกัน – จ่ายค่าใช้จ่ายภายในกิจการด้วยเงินภายในกิจการ ไม่ควรนำเงินส่วนตัวมาใช้ภายในกิจการ – ไม่นำเงินภายในกิจการไปใช้ส่วนตัว แม้กิจการได้ผลกำไรจำนวนมาก หากต้องการนำไปใช้ควรทำให้ถูกต้องโดยการจ่ายเป็นเงินเดือน เงินปันผล หรือค่าตอบแทน – ในกรณีที่เจ้าของกิจการให้กิจการกู้ยืมจะต้องทำหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้จริงขึ้นมาอย่างเช่นหนังสือสัญญาระบุยอดเงินกู้ยืม และดอกเบี้ยเงินกู้ให้ครบถ้วน  🔸เอาเงินกิจการไปใช้อย่างไรให้ถูกต้อง - จดทะเบียนบริษัท ด้วยเงินทุนตามจริงที่มี ไม่ใช่ทุนยอดนิยม 1,000,000 บาท - ต้องแยกเงินส่วนตัวกับเงินกิจการออกจากกันอย่างชัดเจน เงินสำหรับกิจการให้เปิดบัญชีธนาคารในนามกิจการ ไม่ใช่ในนามของเจ้าของกิจการ - เมื่อมีค่าใช้จ่ายของกิจการ ก็ควรจะจ่ายจากบัญชีธนาคารของกิจการ หรือเงินสดย่อย แทนที่จะจ่ายจากเงินส่วนตัวของเจ้าของกิจการ - ไม่แนะนำให้เจ้าของกิจการถอนเงินตามอัธยาศัยโดยไม่มีที่มาที่ไป หากกิจการมีรายได้มากและอยากนำเงินไปใช้ กระบวนการที่ถูกต้องคือ ทำให้เป็นรายได้ของตัวเอง โดยการจ่ายเป็นเงินเดือน เงินปันผล หรือค่าตอบแทน ที่มีเอกสารรับรอง - หากเจ้าของกิจการหรือหุ้นส่วนมีการนำเงินส่วนตัวมาให้ยืมเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ ควรทำหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้จริงขึ้น เช่น หนังสือสัญญาระบุยอดเงินในการกู้ยืม ระบุรายการดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องชำระให้ครบถ้วน  ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >> https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran  🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร❓


เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมธนาคารมีลักษณะ และวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่คล้ายๆ กัน เพราะเงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการเป็นเงินเบิกที่คนภายในกิจการต้องนำไปใช้จ่าย แต่ในการทำบัญชีเงินสดทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ดังนั้นในวันนี้ เราจะพานักธุรกิจมือใหม่ทุกคนมาทำความเข้าใจกับเงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการกัน


🔸เงินสดย่อยคืออะไร?

เงินสดย่อยคือเงินสดที่ถูกนำมาใช้จ่ายภายในกิจการ ที่ทางกิจการกำหนดไว้ให้พนักงานสามารถขอเบิกเพื่อนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับงานในส่วนต่างๆ ได้ โดยในการใช้จ่าย เงินสดย่อยจะเป็นเงินที่มีจำนวนไม่มากที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างวัน อย่างเช่นค่าเดินทางไปพบลูกค้า ค่าอุปกรณ์ภายในสำนักงาน ค่าส่งเอกสาร พิมพ์เอกสาร ถ่ายเอกสาร หรือจะเป็นค่าอาหารพิเศษสำหรับให้กำลังใจพนักงานก็ได้เช่นกัน


ทั้งนี้จุดเด่นของเงินสดย่อยคือเงินที่นำมาใช้จ่ายได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เจ้านาย หรือผู้บริหารเซ็นอนุมัติก่อนทำการจ่ายเงิน พนักงานสามารถใช้เงินสดย่อยได้ทันที แล้วทำเรื่องขอเบิกเงิ


🔸วิธีจัดการกับเงินสดย่อยที่จะใช้ภายในกิจการ

การจัดการกับเงินสดย่อยที่คุณจะต้องนำมาใช้ในกิจการ ก่อนอื่นให้คุณคำนวณงบประมาณเงินสดย่อยที่จะต้องใช้ในแต่ละวัน และประเมินออกมาให้เหมาะสมกับขนาดของกิจการ โดยหากเป็นกิจการขนาดเล็กทั่วไป อาจกำหนดจำนวนเงินสดไว้ที่ 5,000 – 10,000 บาทต่อสัปดาห์ หรือในหนึ่งเดือนก็ได้ตามความเหมาะสม


เมื่อได้จำนวนเงินสดย่อยที่ประมาณการไว้แล้ว ต่อมาให้กำหนดความรับผิดชอบในการถือเงินสดย่อย ในส่วนนี้จะให้พนักงานบัญชี หรือเจ้าของกิจการถือเงินสดย่อยไว้ก็ได้ เพื่อความเป็นระเบียบและสะดวกในการเบิกจ่าย และจัดทำเอกสารต่างๆ คุณควรกำหนดวันที่ที่สามารถทำการเบิกได้ เช่น เบิกทุกวันอังคาร เบิกทุกวันที่ 15 ของเดือน หรือเบิกทุกวันที่ 30 ของเดือน ซึ่งในการเบิก พนักงานจะต้องนำเอกสารหลักฐานอย่างใบเสร็จพร้อมใบเบิกเงินสดย่อยมายื่นให้ผู้ถือเงินสดย่อย เพื่อทำการเบิกเงิน และพนักงานบัญชีจะต้องเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานทางบัญชี


🔸เงินสดย่อยมีผลในกิจการอย่างไร?

– เงินสดย่อยจะช่วยลดภาระหน้าที่เล็กน้อยในกิจการลง ลดความล่าช้าในการเบิกเงินเพื่อใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด

– ป้องกันการนำเงินสดไปใช้ส่วนตัว เพราะเงินสดย่อยจะสามารถเบิกได้เมื่อมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ภายในกิจการ

– ช่วยให้การทำบัญชีง่าย และเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะมีการแบ่งแยกหน้าที่ของเงินในแต่ละส่วนชัดเจน

– ลดความเสี่ยงในการทำเงินสูญหาย หรือผิดพลาดในการจัดเก็บ เพราะมีผู้ถือเงินสดแค่คนเดียว และจำนวนเงินก็ไม่ได้มากนัก


🔸เงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร?

เงินกู้ยืมกรรมการ สามารถเกิดได้ 2 วิธีหลักๆ คือ เป็นเงินของกิจการที่ให้เจ้าของกิจการยืม หรือเป็นเงินของเจ้าของกิจการเอามาให้กิจการกู้ แต่ส่วนใหญ่แล้วพบว่า เจ้าของกิจการมีการเบิก ยืม หรือนำเงินไปใช้ โดยไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร เพราะไม่ได้นำเอกสารหลักฐานการใช้เงินกลับมาด้วย ต่างจากเงินสดย่อยที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่ามีไว้ทำอะไร และมีหลักฐานการขอเบิกไปใช้จริง


🔸ทำไมถึงเกิดบัญชีเงินกู้ยืมกรรมการ

มีหลายกรณีเช่น

- ตอนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่ได้จดทะเบียนด้วยเงินทุนที่มีอยู่จริง เช่น มีเงินทุนเพียง 250,000 บาท แต่ขอจดทะเบียนด้วยทุน 1,000,000 บาท ตามที่นิยมจดกัน ทำให้เจ้าของกิจการมีสถานะติดหนี้กิจการ 750,000 บาท ในบัญชีของกิจการ (มูลค่าต่อหุ้นขั้นต่ำที่จดทะเบียนตามกฎหมายเท่ากับ 5 บาท)

- เจ้าของกิจการต้องการนำเงินมาใช้ส่วนตัว จึงนำเงินของกิจการออกมาใช้โดยไม่มีเอกสารและหลักฐานว่าเอาไปใช้ทำอะไร

- กิจการขาดเงินทุนหมุนเวียน จึงกู้ยืมเงินของเจ้าของกิจการมาใช้

- มีรายได้มากแต่เลี่ยงการลงบัญชีรายได้ของกิจการ เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง

- เป็นรายการปรับปรุงทางบัญชีให้สมดุล


🔸ป้องกันการเกิดบัญชีเงินกู้ยืมกรรมการอย่างไรดี?

– จดทะเบียนบริษัทด้วยเงินทุนตามจริง

– แยกค่าใช้จ่ายภายในกิจการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากกัน

– จ่ายค่าใช้จ่ายภายในกิจการด้วยเงินภายในกิจการ ไม่ควรนำเงินส่วนตัวมาใช้ภายในกิจการ

– ไม่นำเงินภายในกิจการไปใช้ส่วนตัว แม้กิจการได้ผลกำไรจำนวนมาก หากต้องการนำไปใช้ควรทำให้ถูกต้องโดยการจ่ายเป็นเงินเดือน เงินปันผล หรือค่าตอบแทน

– ในกรณีที่เจ้าของกิจการให้กิจการกู้ยืมจะต้องทำหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้จริงขึ้นมาอย่างเช่นหนังสือสัญญาระบุยอดเงินกู้ยืม และดอกเบี้ยเงินกู้ให้ครบถ้วน


🔸เอาเงินกิจการไปใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

- จดทะเบียนบริษัท ด้วยเงินทุนตามจริงที่มี ไม่ใช่ทุนยอดนิยม 1,000,000 บาท

- ต้องแยกเงินส่วนตัวกับเงินกิจการออกจากกันอย่างชัดเจน เงินสำหรับกิจการให้เปิดบัญชีธนาคารในนามกิจการ ไม่ใช่ในนามของเจ้าของกิจการ

- เมื่อมีค่าใช้จ่ายของกิจการ ก็ควรจะจ่ายจากบัญชีธนาคารของกิจการ หรือเงินสดย่อย แทนที่จะจ่ายจากเงินส่วนตัวของเจ้าของกิจการ

- ไม่แนะนำให้เจ้าของกิจการถอนเงินตามอัธยาศัยโดยไม่มีที่มาที่ไป หากกิจการมีรายได้มากและอยากนำเงินไปใช้ กระบวนการที่ถูกต้องคือ ทำให้เป็นรายได้ของตัวเอง โดยการจ่ายเป็นเงินเดือน เงินปันผล หรือค่าตอบแทน ที่มีเอกสารรับรอง

- หากเจ้าของกิจการหรือหุ้นส่วนมีการนำเงินส่วนตัวมาให้ยืมเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ ควรทำหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้จริงขึ้น เช่น หนังสือสัญญาระบุยอดเงินในการกู้ยืม ระบุรายการดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องชำระให้ครบถ้วน


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 14 ครั้ง

Comments


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page