6 เว็บฟรี❗ ขายออนไลน์ที่มาแรงในยุคโควิด

ปัจจุบันอาชีพยอดนิยมสุดๆในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นอาชีพขายของออนไลน์ เพราะสร้างรายได้ดี แถมไม่ต้องไปตั้งร้านให้เสียเวลาอีกด้วย ซึ่งสำหรับใครที่กำลังอยากเริ่มทำอาชีพนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรีที่ไหนดี วันนี้รวบรวมเว็บไซต์เด็ดๆ สำหรับขายออนไลน์มาให้แล้ว

1. KAIDEE

เว็บไซต์นี้หลายคนน่าจะรู้จักกันดี เรียกว่า “ ขายดี” เป็นร้านขายของออนไลน์ยอดนิยมซึ่งเว็บไซต์เป็นได้ทั้งเว็บขายสินค้าทั่วไป และเว็บขายของมือสอง ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ บ้าน รถ และที่สำคัญขั้นตอนการลงขายสินค้าก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้ทันที สามารถทิ้งคอนแทคไว้ติดต่อกันนอกรอบได้ จุดเด่นของเว็บขายดีก็คือ สามารถซื้อไว้โปรโมทสินค้าที่ตัวเองขายได้นั่นเอง

👉🏻ทำไมต้องเลือกซื้อ-ขายของออนไลน์ที่ Kaidee

Kaidee คือแพลตฟอร์มที่คุณสามารถซื้อขายออนไลน์ได้อย่างใจ มีหมวดหมู่สินค้าทั้งมือหนึ่งหรือมือสองมากกว่า 30 หมวดหมู่ให้เลือกซื้อและลงขาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์ไอที ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า พระเครื่อง และอื่น ๆ อีกมากมาย

👉🏻ตอบโจทย์ทุกการซื้อ - ขาย ที่ kaidee

ผู้ขาย

-ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากในการลงขาย

-โปรโมทประกาศของคุณเพื่อปิดการขายได้ไวยิ่งขึ้น

-แชทกับผู้ซื้อได้โดยตรงเพื่อปิดการขาย

-มีระบบหลังบ้าน ที่ทำให้คุณจัดการ รายการประกาศได้สะดวก

ผู้ซื้อ

-สะดวก มั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย

-พูดคุย สอบถาม หรือนัดพบกับคนขาย เพื่อความปลอดภัยในการซื้อขาย

-เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง เพราะเรามีสินค้า อัพเดทตลอดเวลา

2. SHOPEE

เว็บขายของออนไลน์ Shopee ได้รับความนิยมจากขาช้อป และรวมไปถึงพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์จำนวนมาก ข้อดีของ Shopee คือระบบการโอนเงินที่ปลอดภัย และมีระบบช่วยออกค่าส่งให้ นอกจากนั้นทางเว็บก็จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่จะดึงดูดขาช้อปให้เข้ามาใช้บริการ อย่างเช่น โปรโมชั่นช้อปในวันสำคัญวันเลขสวยต่างๆ 7.7, 9.9 หรือ GRAND YEAR SALE และโปรโมชั่นซื้อครั้งแรก 100 บาท จำกัดขั้นต่ำ 200 บาทนั่น

👉🏻ข้อเด่นของ Shopee

-การให้ส่วนลด ซึ่งของทางฝั่ง Shopee จะมีส่วนที่ให้ส่วนลดกับลูกค้าในครั้งแรก และอาจถือว่าได้เปรียบกว่า Lazada

-โปรโมชั่น Shopee Coin ซึ่งเป็นรูปแบบของบริการออกเป็นส่วนลดให้ลูกค้านำมาใช้ได้ในครั้งถัดไป

-บริการขนส่ง ค่อนข้างหลากหลายกว่า Lazada เพราะมีการใช้บริการขนส่งของหลายที่ เช่น ไปรษณีย์ไทย, Kerry และ DHL

👉🏻ข้อเสียของการขายของผ่าน Shopee

-การมีคู่แข่งเยอะ : หากทำการขายสินค้าที่คนนิยมขายกันในช่วงนั้น ซึ่งอาจทำให้มีการตัดราคากันเกิดขึ้นได้ เนื่องจากลูกค้ามักเลือกร้านที่มีราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ต้องดูความน่าเชื่อถือของร้าน คนติดตาม ยอดจำนวนซื้อ ความเห็นจากรีวิวด้วยประกอบกัน

-มีฐานลูกค้าที่น้อยกว่า Lazada : เนื่องจากเพิ่งจะเข้ามาเปิดตลาดได้ไม่นาน แต่ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่งของ Shopee ก็ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาได้ และยังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ

3. LAZADA

คู่แข่ง Shopee ก็ LAZADA นี่แหละ รูปแบบร้านค้าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่หลายคนอาจจะคิดว่าต้องเป็นแบรนด์สินค้ารายใหญ่เท่านั้นถึงจะลงขายได้ ซึ่งจริงๆแล้วร้านค้าเล็กๆก็สามารถลงขายได้เช่นกัน การขายของใน LAZADA นั้น แม่ค้าจะถูกหักค่าคอมมิชชั่น ตามอัตราของประเภทสินค้า เรื่องการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ทางเว็บก็ให้ความสำคัญ เพื่อที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดขาช้อป ซึ่งแน่นอนว่าโปรโมชั่นเหล่านี้จะช่วยสร้างยอดขายให้ร้านค้าได้

👉🏻ข้อเด่นของ Lazada

-ระบบเปิดร้านรวดเร็ว และบริการส่งสินค้า เป็นหนึ่งในจุดแข็งสำคัญ ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมก็สามารถลงทะเบียนเป็นผู้ค้าได้อย่างง่าย ๆ เพียงกรอกข้อมูลสั้นๆ แค่หน้าเดียวก็เท่ากับเปิดร้านได้เรียบร้อยแล้ว

-การขนส่งสินค้า สามารถจัดการขนส่งโดยใช้เวลารวดเร็ว ส่วนมากแล้วใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน อีกทั้งทาง Lazada ก็จะช่วยรับผิดชอบกรณีที่เกิดความผิดพลาดในการส่งสินค้าอีกด้วย

-มีการเปิดอบรมและระบบที่ชัดเจน อาลีบาบา มีการทำข้อตกลงร่วมกันกับรัฐบาลไทย ทำให้สามารถเข้ามาเปิดโรงเรียนสอนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยได้อย่างเป็นทางการและถูกต้องตามกระบวนการ โดยเป็นการเปิดอบรมผ่านทาง Taobao University ซึ่งก็จะมีการอบรมสอนการใช้งานของ Lazada ไปด้วย ช่วยเพิ่มผู้ค้าให้มากขึ้น

-ไม่ได้มีแค่สินค้า แต่ยังมีในส่วนของงานบริการอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ส่วนลดสำหรับร้านอาหาร หรือ สปา ศูนย์ความงาม เป็นต้น

👉🏻ข้อเสียของการขายของผ่าน Lazada

-มีค่าใช้จ่ายสูงที่ผู้ขายต้องเสียเมื่อมีรายได้จากการขายสินค้าเข้ามา : ไม่ว่าจะเป็นค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมการรับชำระเงิน และค่าธรรมเนียมการจัดส่งสินค้า ซึ่งอาจจะเป็นภาระสำหรับร้านค้าขนาดเล็ก ทำให้มีกำไรจากการขายที่น้อยลงได้

-ต้องแข่งขันกับสินค้าที่มาจากจีน : เพราะในลาซาด้าจะมีสินค้าจากจีนมาลงขายค่อนข้างเยอะ แถมสินค้ายังมีราคาที่ถูกกว่า แต่ก็จะมีระยะเวลาจัดส่งสินค้าที่นานกว่าสินค้าในไทย ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มอาจหันไปซื้อสินค้าจากจีนแทนได้

4. PANTIP MARKET

เว็บไซต์ขายของมือสองฟรีที่อยากแนะนำ เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักเว็บพันทิปเป็นอย่างดี หลายคนเข้าเว็บนี้บ่อย พอๆกับเข้า Facebook เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นการลงขายของใน Pantip Market จึงเป็นอีกช่องทางทำเงินที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ไม่ควรพลาด แถมไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆอีกด้วย

👉🏻ฟังชั่นการใช้งาน

-ล็อคอินผ่าน ชื่อ+รหัสผ่าน , Facebook , twitter , Google และ โพสต์ประกาศฟรีได้ทันที

-ลงข้อมูลประกาศ ข้อมูลติดต่อ พร้อมรูปภาพ ได้ 15 ภาพ

-มีหน้าจัดการประกาศ เลื่อนประกาศ , เลื่อนวันหมดอายุ , แก้ไขประกาศ , ลบประกาศ

-ผู้ซื้อสินค้า ติดต่อผู้ขายได้โดยตรง

-ระบบเสิร์ชสินค้าแบบเร็ว และค้นหาตามจังหวัด อย่างละเอียด

5. WELOVESHOPPING

เว็บไซต์นี้อยู่มานานพอสมควร เปิดให้พ่อค้า แม่ค้ามาเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรี แบบไม่เสียค่าบริการเช่นเดียวกับเว็บอื่นๆ พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ใช้บริการค่อนข้างเยอะ ทำให้ขาช้อปพากันเข้ามาเลือกซื้อสินค้าที่มีหลากหลายประเภท ที่สำคัญคุณสามารถลงขายสินค้าได้ไม่จำกัด ยิ่งลงเยอะ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ยอดขายได้มากขึ้น

👉🏻WeLoveShopping หนึ่งในผู้นำเว็บไซต์ขายปลีกออนไลน์

WeLoveShopping คือ เว็บไซต์ Market Place ที่พื้นที่ให้แก่ผู้บริโภค ทั้งผู้ขายมาเจอกับผู้ซื้อผ่านเส้นทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการผลักดันให้ พ่อค้า – แม่ค้า ที่ทำมาหากินให้ได้เจริญเติบโต นอกจากนี้จุดเด่นอีก 2 ข้อของ ‘WeLoveShopping’ คือ ไม่เสียค่าเช่าพื้นที่ในการเปิดร้านค้า รวมทั้งการใช้ระบบ ‘WeTrust Guarantee’ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถให้คะแนนความพึงพอใจที่มีของตนเองต่อแต่ละร้านค้าได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือ ยกระดับในเรื่องการถูกคดโกงการชำระเงิน ซึ่งจัดเป็นปัญหาที่มีความสำคัญต่อผู้บริโภคจำนวนมาก

👉🏻ทำไมใครๆก็อยากเปิดร้านที่ Weloveshopping

-เปิดง่ายขายดีจริง แค่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นก็เปิดร้านค้าออนไลน์ได้

-Search เจอง่าย โครงสร้างเว็บไซต์สนับสนุน การทำงานของ SEARCH ENGINE

-ได้เงินเร็ว รับเงินคืนค่าสินค้าทันทีที่ลูกค้ายืนยันการรับสินค้าสำหรับบุคคลธรรมดาและทุก 7 วันสำหรับ

-ลูกค้าเยอะ ลูกค้ากว่า 8 แสนคน เลือกช้อปกับเรา

-ขายได้หลายช่องทาง เลือกขายได้ทั้งบนเว็บ และแอพพลิเคชั่นมือถือในระบบ iOS และ Android

6. TARAD

เว็บขายของออนไลน์ระดับตำนาน ที่เว็บนี้คุณสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ยาก ด้วยทีมงานคุณภาพที่มีประสบการณ์ทางการตลาดที่จะช่วยส่งเสริมให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณเป็นที่รู้จัก และที่สำคัญใช้งานง่าย ไม่จำกัดสินค้าที่จะลงขาย นอกจากสินค้าผิดกฎหมายเท่านั้น

🔸ระบบ E-commerce

ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้การค้าขายสามารถทำผ่านออนไลน์ได้ และทำได้ดีด้วย สำหรับระบบนี้เป็นระบบที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายมากๆ อีกทั้งยังทำให้เจ้าของธุรกิจบริหารจัดการธุรกิจผ่านทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเองได้ สำหรับระบบ E-commerce ใน ‘Tarad.com’ จัดเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากคนไทยมาอย่างยาวนานมากกว่า 15 ปี จึงทำให้เป็นเทคโนโลยีพิเศษ ที่ผลักดันทำให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจของตนเองไปได้ทั่วโลก !

🔸รับชำระเงินออนไลน์

‘Tarad.com’ รองรับการชำระเงินหลากหลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิต , Paypal, ตู้ ATM , Internet Banking ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ซื้อชำระเงินได้อย่างง่ายดายและสะดวกมาก

🔸การตลาดออนไลน์ส่วนตัว

ด้วยการสร้างตลาดออนไลน์อย่างเต็มที่ จึงทำให้เกิดการดำเนินงานแบบมืออาชีพ เช่น ระบบ Search Engine Optimization , E-mail , Social Network เป็นต้น ณ ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ ‘Tarad.com’ จำนวนหลายสิบล้านคนในแต่ละเดือน นอกจากนี้ พ่อค้า – แม่ค้า จะได้มีที่ปรึกษาส่วนตัว ที่จะคอยให้คำแนะนำตลอด

🔸การค้าออนไลน์

มีการส่งเสริมรวมทั้งให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยการเปิดให้การอบรม สำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ , เพิ่มจำนวนคนเข้าสู่เว็บไซต์ , วิธีถ่ายภาพ ,จัดการสินค้าออนไลน์ และอื่นๆอีกมากหลาย ที่ทาง ‘Tarad.com’ พร้อมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ

-----------------------------------------------------------------------------------

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

>> https://www.chatstickmarket.com/langran

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

>>https://www.chatstickmarket.com/portfolio

------------------------------------------------------------------------------------

💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick