top of page

AI ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ


AI ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ  ในยุคที่ความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเติบโตของประชากร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก ซึ่ง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความขาดแคลน ยกระดับคุณภาพ และสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรน้ำ ตั้งแต่การติดตามปริมาณน้ำ การจัดสรรการใช้น้ำ ไปจนถึงการบำบัดน้ำเสีย ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการเรียนรู้ด้วยตนเอง AI จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบการจัดการน้ำไปสู่ความเป็นอัจฉริยะ แม่นยำ และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น  ทีมงาน ChatStick ได้รวบรวมกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการประยุกต์ใช้ AI ในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ดังนี้  1. ระบบติดตามและพยากรณ์ปริมาณน้ำ (Water Monitoring & Forecasting): AI ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากเซนเซอร์ ดาวเทียม และสถานีตรวจวัด เพื่อติดตามระดับน้ำในแหล่งน้ำผิวดินและใต้ดิน การไหลของน้ำในแม่น้ำลำคลอง และปริมาณน้ำฝนในแต่ละพื้นที่แบบเรียลไทม์ จากนั้นใช้ในการสร้างแบบจำลองทางอุทกวิทยาเพื่อพยากรณ์สถานการณ์น้ำล่วงหน้า ช่วยในการวางแผนจัดสรรน้ำและเตือนภัยน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น  2. ระบบชลประทานและจัดสรรน้ำอัจฉริยะ (Smart Irrigation & Water Allocation): AI ถูกนำมาใช้ในการควบคุมระบบชลประทานให้จ่ายน้ำในปริมาณและเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด สภาพดิน และสภาพอากาศ ผ่านการเชื่อมต่อกับเซนเซอร์วัดความชื้นในดินและการวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและผลผลิตพืชได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังใช้ในการจัดสรรน้ำในระดับลุ่มน้ำ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลน้ำและความต้องการของผู้ใช้น้ำในพื้นที่ เพื่อหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างภาคส่วนต่างๆ  3. ระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำและเฝ้าระวังมลพิษ (Water Quality Monitoring & Pollution Detection): AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพน้ำจากเซนเซอร์ตรวจวัดพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น ออกซิเจนละลายน้ำ ค่าความเป็นกรด-ด่าง สารเคมี และโลหะหนัก เพื่อประเมินและติดตามสถานะของแหล่งน้ำแบบเรียลไทม์ หากพบความผิดปกติหรือเกินค่ามาตรฐาน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อเข้าตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ช่วยป้องกันการปนเปื้อนในแหล่งน้ำและลดผลกระทบต่อสุขภาพและระบบนิเวศได้  4. ระบบบำบัดน้ำเสียอัตโนมัติ (Automated Wastewater Treatment): AI ถูกนำมาใช้ในการควบคุมกระบวนการบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการปรับพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น อัตราการไหล สารเคมีที่ใช้ และระยะเวลาในการบำบัด ให้เหมาะสมกับปริมาณและลักษณะของน้ำเสียที่เข้ามาในแต่ละช่วงเวลา โดยอาศัยการเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตและการปรับตัวแบบเรียลไทม์ ช่วยลดการใช้สารเคมีและพลังงาน ในขณะที่รักษาคุณภาพน้ำทิ้งให้ได้ตามมาตรฐาน พร้อมทั้งคาดการณ์ช่วงเวลาที่ต้องซ่อมบำรุงเพื่อป้องกันการหยุดชะงักของระบบ    5. ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้น้ำ (Water Consumption Analytics): AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการใช้น้ำของผู้บริโภคจากมาตรวัดน้ำอัจฉริยะ (Smart Meter) เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบการใช้น้ำของแต่ละบุคคลหรือครัวเรือน ช่วยในการวางแผนกำลังการผลิตน้ำประปา การกำหนดอัตราค่าน้ำแบบขั้นบันได และการรณรงค์ประหยัดน้ำให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการตรวจจับการรั่วไหลหรือการใช้น้ำผิดปกติ เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ใช้น้ำทราบและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที  สำหรับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการใช้น้ำปริมาณมากอย่างเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว การนำ AI มาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ นอกจากจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และบรรเทาความเสี่ยงจากภัยแล้งแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกอย่าง Coca-Cola ที่ใช้ AI ในการบริหารจัดการน้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การคัดเลือกแหล่งน้ำ การผลิต ไปจนถึงการบำบัดน้ำทิ้ง เพื่อลดการใช้น้ำและเพิ่มอัตราการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุน ในขณะที่สื่อสารความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนให้ผู้บริโภคทราบ ผ่านการทำการตลาดเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  ทีมงาน ChatStick มีข้อแนะนำสำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการนำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำว่า   - ควรเริ่มจากการประเมินสถานการณ์การใช้น้ำภายในองค์กรอย่างละเอียด เพื่อค้นหาจุดที่มีการใช้น้ำไม่มีประสิทธิภาพหรือมีโอกาสในการปรับปรุง  - ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและหน่วยงานด้านน้ำ ในการพัฒนาระบบจัดการน้ำที่ใช้ AI ให้เหมาะกับขนาด ความซับซ้อน และงบประมาณขององค์กร   - ให้ความสำคัญกับการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ในการปรับปรุงและฝึกฝนระบบ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ  - สื่อสารให้พนักงานและผู้มีส่วนได้เสียทราบถึงประโยชน์และความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีในการจัดการน้ำ เพื่อสร้างการยอมรับและความร่วมมือที่ดี  - เชื่อมโยงความพยายามในการจัดการน้ำเข้ากับกลยุทธ์ความยั่งยืนขององค์กร และสื่อสารสู่ภายนอกผ่านการทำการตลาดที่เน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  อย่างไรก็ตาม ในการนำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ยังมีความท้าทายที่ต้องพิจารณา เช่น ความพร้อมของข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานในการเก็บข้อมูล ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้ใช้น้ำบางกลุ่ม ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของระบบ รวมถึงผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากการจัดสรรน้ำด้วย AI ดังนั้น ควรมีการออกนโยบายที่เหมาะสม ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและประชาชน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรน้ำและเทคโนโลยี  ทีมงาน ChatStick เชื่อว่าในอนาคต AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีกระแสหลักในการจัดการทรัพยากรน้ำแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ด้วยการบูรณาการข้อมูลและองค์ความรู้จากหลากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลภูมิอากาศ ข้อมูลทางอุทกวิทยา ข้อมูลการใช้น้ำของภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนพฤติกรรมของผู้ใช้น้ำรายย่อย มาใช้ในการวิเคราะห์ วางแผน และกำหนดนโยบายการบริหารจัดการน้ำในระดับประเทศ ลุ่มน้ำ และท้องถิ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงด้านน้ำที่ยั่งยืน ทั้งในมิติของปริมาณ คุณภาพ การเข้าถึง และความเป็นธรรมในการจัดสรร อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ  #AIพิชิตวิกฤตการณ์น้ำด้วยพยากรณ์ที่แม่นยำ  #AIผสานเทคโนโลยีและธรรมชาติเพื่อชลประทานสมัยใหม่   #AIพิทักษ์สายน้ำให้ใสสะอาดปราศจากมลพิษ  #AIปฏิวัติการบำบัดน้ำเสียให้เหนือชั้นกว่าเดิม  #AIเปิดเผยพฤติกรรมการใช้น้ำเพื่อวางแผนที่ชาญฉลาด  #สร้างแบรนด์ที่ใส่ใจน้ำด้วยนวัตกรรมAI  #AIขับเคลื่อนความมั่นคงด้านน้ำที่ยั่งยืน  -----------------------------------------------------------------------------------  สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง     รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์  >> https://www.chatstickmarket.com/langran   ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้  >> https://www.chatstickmarket.com/portfolio   ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙  📱Tel : 0840104252 📱0947805680  📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH   ┏━━━━━━━━━┓  📲 LINE: @chatstick  ┗━━━━━━━━━┛  หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM   🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran   🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

AI ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ


ในยุคที่ความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเติบโตของประชากร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก ซึ่ง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความขาดแคลน ยกระดับคุณภาพ และสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรน้ำ ตั้งแต่การติดตามปริมาณน้ำ การจัดสรรการใช้น้ำ ไปจนถึงการบำบัดน้ำเสีย ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการเรียนรู้ด้วยตนเอง AI จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบการจัดการน้ำไปสู่ความเป็นอัจฉริยะ แม่นยำ และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น


ทีมงาน ChatStick ได้รวบรวมกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการประยุกต์ใช้ AI ในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ดังนี้


1. ระบบติดตามและพยากรณ์ปริมาณน้ำ (Water Monitoring & Forecasting): AI ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากเซนเซอร์ ดาวเทียม และสถานีตรวจวัด เพื่อติดตามระดับน้ำในแหล่งน้ำผิวดินและใต้ดิน การไหลของน้ำในแม่น้ำลำคลอง และปริมาณน้ำฝนในแต่ละพื้นที่แบบเรียลไทม์ จากนั้นใช้ในการสร้างแบบจำลองทางอุทกวิทยาเพื่อพยากรณ์สถานการณ์น้ำล่วงหน้า ช่วยในการวางแผนจัดสรรน้ำและเตือนภัยน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น


2. ระบบชลประทานและจัดสรรน้ำอัจฉริยะ (Smart Irrigation & Water Allocation): AI ถูกนำมาใช้ในการควบคุมระบบชลประทานให้จ่ายน้ำในปริมาณและเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด สภาพดิน และสภาพอากาศ ผ่านการเชื่อมต่อกับเซนเซอร์วัดความชื้นในดินและการวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและผลผลิตพืชได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังใช้ในการจัดสรรน้ำในระดับลุ่มน้ำ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลน้ำและความต้องการของผู้ใช้น้ำในพื้นที่ เพื่อหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างภาคส่วนต่างๆ


3. ระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำและเฝ้าระวังมลพิษ (Water Quality Monitoring & Pollution Detection): AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพน้ำจากเซนเซอร์ตรวจวัดพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น ออกซิเจนละลายน้ำ ค่าความเป็นกรด-ด่าง สารเคมี และโลหะหนัก เพื่อประเมินและติดตามสถานะของแหล่งน้ำแบบเรียลไทม์ หากพบความผิดปกติหรือเกินค่ามาตรฐาน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อเข้าตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ช่วยป้องกันการปนเปื้อนในแหล่งน้ำและลดผลกระทบต่อสุขภาพและระบบนิเวศได้


4. ระบบบำบัดน้ำเสียอัตโนมัติ (Automated Wastewater Treatment): AI ถูกนำมาใช้ในการควบคุมกระบวนการบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการปรับพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น อัตราการไหล สารเคมีที่ใช้ และระยะเวลาในการบำบัด ให้เหมาะสมกับปริมาณและลักษณะของน้ำเสียที่เข้ามาในแต่ละช่วงเวลา โดยอาศัยการเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตและการปรับตัวแบบเรียลไทม์ ช่วยลดการใช้สารเคมีและพลังงาน ในขณะที่รักษาคุณภาพน้ำทิ้งให้ได้ตามมาตรฐาน พร้อมทั้งคาดการณ์ช่วงเวลาที่ต้องซ่อมบำรุงเพื่อป้องกันการหยุดชะงักของระบบ


5. ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้น้ำ (Water Consumption Analytics): AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการใช้น้ำของผู้บริโภคจากมาตรวัดน้ำอัจฉริยะ (Smart Meter) เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบการใช้น้ำของแต่ละบุคคลหรือครัวเรือน ช่วยในการวางแผนกำลังการผลิตน้ำประปา การกำหนดอัตราค่าน้ำแบบขั้นบันได และการรณรงค์ประหยัดน้ำให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการตรวจจับการรั่วไหลหรือการใช้น้ำผิดปกติ เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ใช้น้ำทราบและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที


สำหรับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการใช้น้ำปริมาณมากอย่างเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว การนำ AI มาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ นอกจากจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และบรรเทาความเสี่ยงจากภัยแล้งแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกอย่าง Coca-Cola ที่ใช้ AI ในการบริหารจัดการน้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การคัดเลือกแหล่งน้ำ การผลิต ไปจนถึงการบำบัดน้ำทิ้ง เพื่อลดการใช้น้ำและเพิ่มอัตราการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุน ในขณะที่สื่อสารความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนให้ผู้บริโภคทราบ ผ่านการทำการตลาดเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม


ทีมงาน ChatStick มีข้อแนะนำสำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการนำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำว่า

- ควรเริ่มจากการประเมินสถานการณ์การใช้น้ำภายในองค์กรอย่างละเอียด เพื่อค้นหาจุดที่มีการใช้น้ำไม่มีประสิทธิภาพหรือมีโอกาสในการปรับปรุง

- ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและหน่วยงานด้านน้ำ ในการพัฒนาระบบจัดการน้ำที่ใช้ AI ให้เหมาะกับขนาด ความซับซ้อน และงบประมาณขององค์กร

- ให้ความสำคัญกับการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ในการปรับปรุงและฝึกฝนระบบ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

- สื่อสารให้พนักงานและผู้มีส่วนได้เสียทราบถึงประโยชน์และความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีในการจัดการน้ำ เพื่อสร้างการยอมรับและความร่วมมือที่ดี

- เชื่อมโยงความพยายามในการจัดการน้ำเข้ากับกลยุทธ์ความยั่งยืนขององค์กร และสื่อสารสู่ภายนอกผ่านการทำการตลาดที่เน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม


อย่างไรก็ตาม ในการนำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ยังมีความท้าทายที่ต้องพิจารณา เช่น ความพร้อมของข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานในการเก็บข้อมูล ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้ใช้น้ำบางกลุ่ม ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของระบบ รวมถึงผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากการจัดสรรน้ำด้วย AI ดังนั้น ควรมีการออกนโยบายที่เหมาะสม ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและประชาชน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรน้ำและเทคโนโลยี


ทีมงาน ChatStick เชื่อว่าในอนาคต AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีกระแสหลักในการจัดการทรัพยากรน้ำแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ด้วยการบูรณาการข้อมูลและองค์ความรู้จากหลากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลภูมิอากาศ ข้อมูลทางอุทกวิทยา ข้อมูลการใช้น้ำของภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนพฤติกรรมของผู้ใช้น้ำรายย่อย มาใช้ในการวิเคราะห์ วางแผน และกำหนดนโยบายการบริหารจัดการน้ำในระดับประเทศ ลุ่มน้ำ และท้องถิ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงด้านน้ำที่ยั่งยืน ทั้งในมิติของปริมาณ คุณภาพ การเข้าถึง และความเป็นธรรมในการจัดสรร อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ


#AIพิชิตวิกฤตการณ์น้ำด้วยพยากรณ์ที่แม่นยำ

#AIผสานเทคโนโลยีและธรรมชาติเพื่อชลประทานสมัยใหม่

#AIพิทักษ์สายน้ำให้ใสสะอาดปราศจากมลพิษ

#AIปฏิวัติการบำบัดน้ำเสียให้เหนือชั้นกว่าเดิม

#AIเปิดเผยพฤติกรรมการใช้น้ำเพื่อวางแผนที่ชาญฉลาด

#สร้างแบรนด์ที่ใส่ใจน้ำด้วยนวัตกรรมAI

#AIขับเคลื่อนความมั่นคงด้านน้ำที่ยั่งยืน


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 79 ครั้ง

โพสต์ที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด

コメント


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page