Dropship ธุรกิจออนไลน์ เริ่มทำได้เลย ไม่ต้องลงทุน✨

Dropship ธุรกิจออนไลน์ เริ่มทำได้เลย ไม่ต้องลงทุน✨
👉🏻Dropship คืออะไร
Dropship เป็นระบบตัวแทนขาย ที่มีความต่างจากระบบตัวแทนจำหน่ายปกติ ตรงที่ตัวแทน Dropship ไม่ต้องทำการสต็อกสินค้าเอง แต่จะมีเจ้าของสินค้าคอยทำหน้าที่นี้ให้ ซึ่งเจ้าของสินค้านั้นอาจมีแบรนด์ของตัวเองหรือสั่งสินค้ามาจากเว็บต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น AliExpress, eBay, Amazon, Alibaba ก็ได้ ตัวแทนมีหน้าที่เพียงนำข้อมูลสินค้าเหล่านั้นไปทำการตลาดต่อ ประกาศขายตามช่องทางที่ตนมี ไม่ว่าจะเป็น Facebook IG LINE หรือ เว็บไซต์ส่วนตัว ในขั้นนี้จะมีการบวกกำไรเข้าไปด้วยเล็กน้อย เมื่อมีคนสนใจสั่งซื้อสินค้า ตัวแทนจะทำการสั่งซื้อจากเจ้าของสินค้าอีกต่อหนึ่ง และเจ้าของสินค้าจะทำการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าของตัวแทน โดยชื่อผู้ส่งจะเป็นชื่อของตัวแทน พูดง่าย ๆ สั้น ๆ มันคือ การขายสินค้าที่ไม่ต้องมีการสต๊อกสินค้า
การทำ Dropship หาลูกค้าให้กับธุรกิจ เป็นเรื่องที่หลายธุรกิจทำกันมากในยุคปัจจุบัน เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกซอกทุกมุม ทั้งยังสามารถกระจายสินค้าไปได้ไกลอีกด้วย เปรียบตัวแทน Dropship ได้กับ พ่อค้าคนกลาง นายหน้าซื้อขายสินค้ายุคใหม่ ที่มีช่องทางการตลาดอยู่บนสื่อออนไลน์ล้วน ๆ
👉🏻ข้อดีแบบโดน ๆ ของการขายออนไลน์ Dropship
Dropshipเป็นรูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มสนใจอยากทำธุรกิจของตัวเองเป็นครั้งแรก ด้วยรูปแบบของDropship เอื้อให้ผู้สนใจสามารถทดลองไอเดียธุรกิจได้หลากหลาย เช่น แหล่งร้านรับตัวแทนขาย สินค้าที่เป็นที่ต้องการในตลาด ช่องทางการขาย การตั้งราคา ฯลฯ เพราะไม่มีต้นทุนการกักตุนสินค้าเอง มาดูข้อมูลอย่างละเอียดๆ กันว่ามีอะไรบ้าง
1. ใช้ต้นทุนน้อยมาก
ต้นทุนต่ำอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นและข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของการทำ Drop shipping ก็ว่าได้ เพราะ Drop shipping สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนเงินจำนวนมากก่อน พ่อค้าแม่ค้าไม่ต้องซื้อสินค้าเลยสักชิ้น จนกว่าจะมีลูกค้าสั่งสินค้าและจ่ายเงินเข้ามา
2. เริ่มต้นง่าย
พอไม่ต้องสต็อกของ ก็เริ่มต้นได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องกังวลเรื่อง
- จัดการหรือค่าเช่าโกดังเก็บของ
- แพ็คของ ส่งของให้ลูกค้า
- นับสต็อกของเพื่อทำบัญชี
- จัดการสินค้าที่ถูกตีกลับ
- สต็อกสินค้าให้มีอยู่ในคลังอย่างต่อเนื่อง
3. ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดน้อย
เมื่อไมต้องสต็อกสินค้าหรือจัดการเรื่องโกดังของเอง ค่าใช้จ่ายยิบย่อยก็น้อยลงตามไปด้วย ผู้ขายของออนไลน์แนว Dropship จำนวนไม่น้อยเลยในบ้านเรา ที่ใช้แค่คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวทำงาน
แม้ในอนาคตเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ผู้ทำ Dropship จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตาม เช่น จ้างพนักงาน แต่ก็ยังน้อยกว่าการทำธุรกิจออนไลน์แบบสต็อกสินค้าเองอยู่ดี
4. ทำงานที่ไหนก็ได้
อาชีพในฝันเลยไหมล่ะ! Dropshipping เป็นงานที่ทำที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ต เพราะตราบใดที่คุณสามารถติดต่อกับลูกค้าและผู้ส่งสินค้าได้ ก็สามารถทำงานนี้ได้แล้ว
5. มีสินค้าให้เลือกขายได้หลายอย่าง
คุณจะขายอะไรก็ได้ เพราะไม่ต้องสต็อกของเอง รับความเสี่ยงเอง แต่ส่วนมากแล้ว พ่อค้าแม่ค้าก็จะพยายามคุมประเภทของสินค้าที่ขายให้เป็นประเภทเดียวกัน เช่น เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน อาหารเสริม เป็นต้น
6. ทดสอบตลาดได้ง่าย
Dropshipping เหมาะกับการทดสอบความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเบ็ดเตล็ด เช่น เครื่องประดับ ไปจนถึงสินค้าใหม่เอี่ยมอ่อง ไม่เคยมีใครขายมาก่อน
เพราะอย่างที่บอกว่า การทำDropship ช่วยทดสอบสินค้ากับความต้องการซื้อของลูกค้า ก่อนที่ร้านค้าจะตัดสินใจผลิตหรือสั่งมาขายจำนวนมากๆ
7. ขยายขนาดธุรกิจได้ง่าย
หากเป็นธุรกิจขายปลีกทั่วไป ถ้าคุณได้รับออเดอร์จากลูกค้าเยอะขึ้น 3 เท่า คุณต้องลงมือทำงานเพิ่มเป็น 3 เท่า
แต่ถ้าเป็นธุรกิจแบบ Dropship การจัดการออเดอร์ประมาณ 90% จะไปตกอยู่ที่โรงงานที่รับออเดอร์ไปจัดการต่อ เมื่อภาระงานน้อย คุณก็สามารถขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น และขยายใหญ่ได้ไวด้วย
👉🏻5 วิธีเลือกสินค้า มาขายออนไลน์ Dropship สร้างยอดขาย
1.ขายในสิ่งที่เรารู้ เราถนัด
นึกอะไรไม่ออก ลองเริ่มต้นด้วยสิ่งนี้ เข้าไปที่ “หมวดหมู่ทั้งหมด” ลองไล่เรียงดู มีของตั้งเป็นร้อยอย่าง ตั้งแต่เครื่องสำอาง อาหารเสริม สินค้าเด็ก สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า ของแต่งรถ เลือกมาสักอย่างที่รักชอบโดนใจ มันต้องมีสักอย่างที่โดนใจ แถมถ้าเรามีความถนัดในสินค้านั้น จะทำให้เราสามารถอธิบายถึงข้อมูลด้านต่าง ๆ ของสินค้าได้เป็นอย่างดี ทำในสิ่งที่รักมักสร้างความสุข แถมสร้างรายได้ก้อนโตอีกต่างหาก
2.เลือกหาจาก หมวดสินค้าขายดี
ลองเข้าไปที่หมวด (Category) “คำสั่งซื้อ“ ของเว็บไซต์ แล้วดูจากจำนวนตัวเลขการสั่งซื้อที่มากที่สุด เท่านี้ก็พอทราบแล้วว่า สินค้าชิ้นใดเป็นที่ต้องการของตลาดในช่วงนี้ ถ้าแจ๊กพ็อตได้เจอสินค้าที่มีผู้แสดง “ความต้องการ” มาก แต่การแข่งขันยังน้อย เมื่อนั้นโอกาสเป็นของเราทันที งานนี้ต้องอาศัยพยายามกันหน่อย
3.หาของต้นทุนถูก ราคาเป็นมิตร เพื่อโอกาสสร้างกำไร
การเลือกนำเข้าสินค้าจากจีน เช่น Taoboa AliExpress เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ตลาดขายสินค้าออนไลน์ของจีนนั้นสามารถซื้อหาได้ในราคาที่ไม่แพงมาก ถูกเสียด้วยซ้ำ และยังมีสินค้าให้เลือกมากมายหลายพันรายการ ราคาต้นทุนที่ถูกถือเป็นกำไรด่านแรกในการทำธุรกิจ แต่ต้องเป็นความถูกที่มาพร้อมคุณภาพด้วย ถึงจะดีที่สุด
4.ขายของที่อินเทรนด์
อีกหนึ่งวิธีสร้างยอดขายได้แบบไม่ยาก แนะนำว่าลองหาข้อมูลใน search engine ใช้ Google Trend ว่าสินค้าอะไรที่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตอินเทรนด์ในยุคปัจจุบัน ให้ลองขายสินค้านั้น ขายของอินเทรนด์ยังไงก็ปัง ไม่มีแป้ก
5.ขายสินค้าตามเทศกาล
หรืออาจจะเป็นการขายสินค้าตามฤดูกาลก็ได้ วางแผนจัดช่วงตารางขายสินค้าไว้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเทศกาลวาเลนไทน์, วันสงกรานต์, วันคริสต์มาส, วันแม่, วันพ่อ ใช้วิธีนี้ รับรองเราจะสามารถทำการตลาดเชิงรุกนำหน้าคนอื่นได้ก่อนหนึ่งก้าวเสมอ หรืออาจจะเป็นสินค้าสำหรับฤดูกาลต่าง ๆ ก็ได้ มีทั้งร้อน ฝน หนาว ใบไม้ร่วง ใบไม้ผลิ วางแผนขนาดนี้มั่นใจได้เลยว่า จะมีสินค้ามาขายเป็นที่ถูกอกถูกใจคุณลูกค้าอย่างแน่นอน
👉🏻เรื่องเล็กๆ ที่ต้องดูเวลาเลือกสินค้าขายแบบDropship
- ราคา
สินค้าที่ราคาแพงมากๆ อาจจะไม่เหมาะกับการขายแบบDropship เพราะร้านไม่มีสินค้าจริงให้ดูและหลายคนอาจไม่สะดวกใจถ้าซื้อสินค้าราคาสูงกับร้านDropship แต่ก็มีทางแก้ไขอยู่ เช่น การหาภาพสินค้าจริงที่ขายจากโรงงานมาแสดงให้ลูกค้าดู การพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ไม่ใช่ระบบแชทอัตโนมัติ
- การตั้งราคามาตรฐาน
โรงงานหรือต้นทางสินค้าส่วนมากจะตั้งราคาขายขั้นต่ำมา แล้วให้ร้านDropship ขายสินค้าต่อในราคาที่เท่ากับหรือสูงกว่าเพื่อป้องกันการทำสงครามกดราคา ซึ่งมักเกิดขึ้นกับรูปแบบธุรกิจนี้ และช่วยให้ร้านค้าที่ขายของได้กำไรอย่างสมควร สินค้าที่มักได้เปรียบจากหลักเกณฑ์นี้คือ สินค้ากลุ่มเฉพาะ เพราะจะมีคู่แข่งน้อยและสู้กันในเรื่องของความน่าเชื่อถือและช่องทางการขาย
- การทำการตลาด
จะโฆษณาสินค้าอย่างไร คือ สิ่งที่ต้องคิดก่อนจะเริ่มต้นขายสินค้านั้นจริงๆ ไม่ใช่เริ่มขายสินค้าไปแล้วเพิ่งมาคิดว่าจะขายอย่างไร วิธีการโฆษณามีอย่างไรบ้าง เช่น ทำ SEO เว็บไซต์ เชิงเทคนิคอย่างจัดโครงสร้างเว็บไซต์ เขียนบทความรีวิวสินค้าที่ขายหรือสินค้าแบบเดียวกันที่มีขายในตลาด ทำคลิปยูทูบมาฝังในเว็บที่ขายสินค้า ฯลฯ เลือกวิธีที่เข้ากับสินค้าและความถนัดของคุณ
- สินค้าเสริมให้กับสินค้าหลัก
สินค้าที่คุณขาย ต้องมีสินค้าอะไหล่หรือของแต่งเสริมหรือเปล่า เช่น ขายโทรศัพท์ ต้องมีเคสใส่โทรศัพท์ สายชาร์จ แบตเตอรี่สำรอง โดยมากแล้ว สินค้าเสริมเหล่านี้จะทำกำไรให้กับธุรกิจได้พอๆ กับหรือมากกว่าสินค้าหลักด้วย อีกทั้งยังขายง่าย เพราะลูกค้าที่ซื้อสินค้าหลักมักจะซื้ออะไหล่กับเจ้าเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่าใช้ได้กับสินค้าหลักที่ซื้อ
- ความเปลี่ยนแปลงน้อย
การทำหน้าร้านออนไลน์เป็นงานที่ลงทุนไม่มากทั้งเวลาและเงินก็จริง แต่หากต้องปรับเปลี่ยนเรื่อยๆ เนื่องจากไม่สามารถขายสินค้ากลุ่มเดิมได้อีกต่อไป อาจจะไม่คุ้มค่า เช่น เว็บขายเครื่องราง เพราะเครื่องรางมีอายุความนิยมค่อนข้างสั้น ถ้าโฟกัสที่เครื่องรางชนิดเดียวอาจเสี่ยงสูง
- ความยากง่ายในการหาซื้อสินค้า
การขายสินค้าที่หาซื้อในท้องถิ่นหรือห้างสรรพสินค้าแถวบ้านทั่วไปไม่ค่อยได้ คือโอกาสที่สวยงามของร้านค้าออนไลน์ เพราะถ้าลูกค้าหาซื้อสินค้านั้นๆ แถวบ้านตัวเองไม่ได้ ก็จะเริ่มค้นหาในอินเตอร์เน็ตแทน
- ขนาดสินค้า
เล็กหรือใหญ่มีผลกับธุรกิจออนไลน์อย่างมากในเวลานี้ เพราะบริษัทขนส่งจำนวนมากใช้ขนาดเป็นปัจจัยในการคำนวณค่าขนส่ง รวมถึงบางครั้ง การไม่คิดค่าขนส่ง สามารถนำมาเป็นโปรโมชั่นกระตุ้นการขายได้
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
>> https://www.chatstickmarket.com/langran
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
>>https://www.chatstickmarket.com/portfolio
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio