ทริคเด็ด สำหรับผู้ที่ต้องการอยากลงทุน
![ทริคเด็ด สำหรับผู้ที่ต้องการอยากลงทุน ใครที่มีเงินล้านแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาไปลงทุนแบบไหนดี บทความนี้เราจะมาแนะนำให้เห็นความแตกต่างระหว่างหุ้นกับกองทุน เพื่อการตัดสินใจในการลงทุนที่ตรงกับเพื่อน ๆ หุ้น เป็นตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือ เพื่อนำเงินทุนไปใช้หมุนเวียนในกิจการ โดยผู้ถือจะมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการ ที่จะมีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงและผลกำไรของกิจการนั้น ๆ สิ่งที่ต้องศึกษาในการเลือกซื้อหุ้น มี 2 อย่าง - ปัจจัยพื้นฐาน : ภาพรวมทางเศรษฐกิจ การแข่งขันทางอุตสาหกรรม งบการเงินของบริษัท เป็นต้น - ปัจจัยเทคนิค : ดูจังหวะการเข้าซื้อ ข้อดี - มีอิสระในการเลือกหุ้น - จัดพอร์ตหุ้นเองได้ - มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูง ข้อเสีย - ใช้เวลาศึกษาด้วยตนเองค่อนข้างนาน - จำกัดการลงทุนได้แค่หุ้นไทย หุ้นจึงเหมาะกับคนที่มีเวลาที่จะศึกษา และต้องการอิสระในการเลือกลงทุนด้วยตนเอง รวมถึงสามารถรับความเสี่ยงได้สูง กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินจากผู้ลงทุน ที่มีผู้จัดการกองทุนจาก บลจ. เป็นผู้ดูแลให้ โดยจะนำเงินทุนไปลงทุนในสิทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้นโยบายของการลงทุนนั้น ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนตามสัดส่วนที่ถือครอง สิ่งที่ต้องศึกษาในการเลือกซื้อกองทุนรวม กองทุนรวมมีความแตกต่างจากหุ้นตรงที่ มีระดับความเสี่ยงกับนโยบายการลงทุนที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย จึงต้องศึกษาตามเจตนาในการลงทุนของตนเอง ดังนี้ - ต้องการรายได้ประจำ การลงทุนตามเจตนานี้จะต้องใช้เงินทุนที่สูง เหมาะกับการลงทุนในกองทุนที่มีการจ่ายปันผล หรือ ขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto Redemption) เพราะต้องมีผลตอบแทนที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันที่มากพอ - ต้องการเก็บเงินก้อน อย่างการตั้งเป้าหมายระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี) ระยะกลาง (3-7 ปี) และระยะยาว (เกิน 7 ปี) - ต้องการกระจายความเสี่ยง การลงทุนที่มากกว่า 1 กองทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยการลงทุนในหลากหลายทรัพย์สิน เหมาะกับการจัดเป็นพอร์ตลงทุน ข้อดี - มีผู้จัดการการบริหารเงินทุนให้ - มีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนอย่างหลากหลาย - เพียงลงทุนแค่ 1 กองทุนก้ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงแล้ว ข้อเสีย - ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการเลือกสินทรัพย์ในกองทุน การลงทุนในกองทุนรวม จึงเหมาะกับผู้ที่เป็นมือใหม่ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และไม่มีเวลาศึกษาและติดตาม กองทุนส่วนบุคคล คือ กองทุนที่บริหารจัดการเงินของผู้ลงทุน โดยมีผู้จัดการกองทุนจากบริษัทจัดการมาช่วยดูแลและบริหาร โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดนโยบาย หรือรายละเอียดในการลงทุนได้ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของผู้ลงทุนเอง ข้อได้เปรียบมากกว่าหุ้นและกองทุนรวม - สามารถเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่หลากหลาย โดยที่ไม่จำกัดแค่หุ้นหรือกองทุนรวม - ลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ - เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทก็มีผู้เชี่ยวชาญมาดูแลบริหารพอร์ตให้แบบส่วนตัว ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >> https://www.chatstickmarket.com/portfolio ------------------------------------------------------------------------------------ 💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM 🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran 🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio](https://static.wixstatic.com/media/78e300_227eeccde7bf44c5bfbf0f524935e9fe~mv2.jpg/v1/fill/w_147,h_147,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/78e300_227eeccde7bf44c5bfbf0f524935e9fe~mv2.jpg)
ทริคเด็ด สำหรับผู้ที่ต้องการอยากลงทุน
ใครที่มีเงินล้านแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาไปลงทุนแบบไหนดี บทความนี้เราจะมาแนะนำให้เห็นความแตกต่างระหว่างหุ้นกับกองทุน เพื่อการตัดสินใจในการลงทุนที่ตรงกับเพื่อน ๆ
หุ้น เป็นตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือ เพื่อนำเงินทุนไปใช้หมุนเวียนในกิจการ โดยผู้ถือจะมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการ ที่จะมีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงและผลกำไรของกิจการนั้น ๆ
สิ่งที่ต้องศึกษาในการเลือกซื้อหุ้น มี 2 อย่าง
- ปัจจัยพื้นฐาน : ภาพรวมทางเศรษฐกิจ การแข่งขันทางอุตสาหกรรม งบการเงินของบริษัท เป็นต้น
- ปัจจัยเทคนิค : ดูจังหวะการเข้าซื้อ
ข้อดี
- มีอิสระในการเลือกหุ้น
- จัดพอร์ตหุ้นเองได้
- มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูง
ข้อเสีย
- ใช้เวลาศึกษาด้วยตนเองค่อนข้างนาน
- จำกัดการลงทุนได้แค่หุ้นไทย
หุ้นจึงเหมาะกับคนที่มีเวลาที่จะศึกษา และต้องการอิสระในการเลือกลงทุนด้วยตนเอง รวมถึงสามารถรับความเสี่ยงได้สูง
กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินจากผู้ลงทุน ที่มีผู้จัดการกองทุนจาก บลจ. เป็นผู้ดูแลให้ โดยจะนำเงินทุนไปลงทุนในสิทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้นโยบายของการลงทุนนั้น ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนตามสัดส่วนที่ถือครอง
สิ่งที่ต้องศึกษาในการเลือกซื้อกองทุนรวม
กองทุนรวมมีความแตกต่างจากหุ้นตรงที่ มีระดับความเสี่ยงกับนโยบายการลงทุนที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย จึงต้องศึกษาตามเจตนาในการลงทุนของตนเอง ดังนี้
- ต้องการรายได้ประจำ การลงทุนตามเจตนานี้จะต้องใช้เงินทุนที่สูง เหมาะกับการลงทุนในกองทุนที่มีการจ่ายปันผล หรือ ขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto Redemption) เพราะต้องมีผลตอบแทนที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันที่มากพอ
- ต้องการเก็บเงินก้อน อย่างการตั้งเป้าหมายระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี) ระยะกลาง (3-7 ปี) และระยะยาว (เกิน 7 ปี)
- ต้องการกระจายความเสี่ยง การลงทุนที่มากกว่า 1 กองทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยการลงทุนในหลากหลายทรัพย์สิน เหมาะกับการจัดเป็นพอร์ตลงทุน
ข้อดี
- มีผู้จัดการการบริหารเงินทุนให้
- มีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนอย่างหลากหลาย
- เพียงลงทุนแค่ 1 กองทุนก้ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงแล้ว
ข้อเสีย
- ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการเลือกสินทรัพย์ในกองทุน
การลงทุนในกองทุนรวม จึงเหมาะกับผู้ที่เป็นมือใหม่ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และไม่มีเวลาศึกษาและติดตาม
กองทุนส่วนบุคคล คือ กองทุนที่บริหารจัดการเงินของผู้ลงทุน โดยมีผู้จัดการกองทุนจากบริษัทจัดการมาช่วยดูแลและบริหาร โดยที่ผู้ลงทุนสามารถกำหนดนโยบาย หรือรายละเอียดในการลงทุนได้ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของผู้ลงทุนเอง
ข้อได้เปรียบมากกว่าหุ้นและกองทุนรวม
- สามารถเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่หลากหลาย โดยที่ไม่จำกัดแค่หุ้นหรือกองทุนรวม
- ลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ
- เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทก็มีผู้เชี่ยวชาญมาดูแลบริหารพอร์ตให้แบบส่วนตัว
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio