top of page

Facebook Group มีกี่ประเภท❓และสร้างฐานลูกค้าประจำได้อย่างไร❓


Facebook Group มีกี่ประเภท❓และสร้างฐานลูกค้าประจำได้อย่างไร❓  📌FACEBOOK GROUP คืออะไร? คือ กลุ่มออนไลน์ ที่สมาชิกกลุ่มคือคนที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งฟอรั่มที่ Facebook เปิดโอกาสให้สร้างกลุ่มก็หลากหลายวาไรตี้มาก ตั้งแต่เรื่องไลฟสไตล์ ช้อปปิ้ง การแต่งตัว การกินเที่ยว งานอดิเรก ของสะสม ไปจนถึงการทำธุรกิจ การลงทุน ความเชื่อ ศาสนา ฯลฯ  ภายในกรุ๊ปจะมีการโพสต์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอข้อมูลความรู้ ทั้งแบบทั่วไปและในเชิงลึก ขอความช่วยเหลือบ้างก็มี ซึ่งเป็นไปภายใต้กติกาและข้อห้ามของแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไปตามแต่แอดมินกลุ่มจะกำหนด  เงื่อนไขการจะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มได้นั้น ต้องมีการกดขอเข้าร่วมกลุ่ม (join group) ก่อน โดยคำขอนี้จะส่ง notification ไปยังผู้ที่เป็นแอดมินกลุ่มได้ทราบ  บางกลุ่มอาจมีการคัดกรองด้วยการตอบคำถามบางข้อ และให้กดยอมรับกติการกลุ่มก่อน แอดมินจึงจะอนุมัติแล้วสมาชิกคนนั้นจึงจะสามารถเข้าชมเนื้อหาและโพสต์เนื้อหาลงในกลุ่มได้  📌FACEBOOK GROUP แตกต่างจาก FACEBOOK FANPAGE (เพจธุรกิจ) อย่างไร? - เพจ คือ พื้นที่สำหรับทำธุรกิจโดยเฉพาะ ทั้งสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ โปรโมทแบรนด์ สินค้า บริการ ธุรกิจ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ  ไว้ใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและผู้ที่สนใจในธุรกิจของคุณได้หลากหลายช่องทาง ทั้งสาธารณะและเป็นส่วนตัว และยังใช้ในการยิงโฆษณาเพจ/โพสต์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย  - กลุ่ม คือ สถานที่สำหรับติดต่อพูดคุยเพื่อแบ่งปันความสนใจกับผู้คนกลุ่มหนึ่งที่เป็นสมาชิกซึ่งได้รับการอนุมัติแล้วว่ามีความสนใจตรงกัน  เป็นลักษณะคล้าย WebBoard หรือแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร และความคิดเห็น เน้นการ “สนทนา” กัน ไม่เน้นขายของ และไม่สามารถโฆษณาได้  ในด้านการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพจธุรกิจถูกจำกัดการเข้าถึงอยู่ประมาณ 1% หรือน้อยกว่า ของจำนวนคนกดไลค์เพจ หากแบรนด์ต้องการการเข้าถึงหรือการมีส่วนร่วมจำนวนมาก จำเป็นต้องทำการยิงโฆษณาเพจ/โพสต์  แตกต่างจาก Group ซึ่งมีอัตราการเข้าถึง หรือการมีส่วนร่วม ที่ดีกว่ามากแม้ว่าจะไม่สามารถโฆษณาได้ก็ตาม ทั้งนี้เพราะ Facebook ไม่ได้จำกัดการเข้าถึงของสมาชิกกลุ่ม ทำให้สมาชิกกลุ่มเกือบ 100% สามารถมองเห็นโพสต์ในกลุ่มได้  โดยจะเห็นโพสต์ช้าหรือเร็ว ความถี่ให้การมองเห็นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของสมาชิกแต่ละคนว่ากำหนดการมองเห็นเป็น See First หรือ Custom และขึ้นอยู่กับการตั้งค่า group notification ด้วย  📌เราจะใช้ FACEBOOK GROUP เพื่อการทำธุรกิจและการตลาดออนไลน์ได้อย่างไร? ด้วยการทำงานของเฟซบุ๊คกรุ๊ปทำให้หลายคนมองว่าไม่ได้ส่งผลประโยชน์ในทางธุรกิจแต่อย่างใด เพราะขายของก็ไม่ได้ โฆษณาก็ไม่ได้ ทำให้หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญในการสร้าง Group และพลาดโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย  📌เพราะที่จริงแล้วเราสามารถนำมาใช้ในการทำธุรกิจและการตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพไม่แพ้ Facebook Fanpage เลยทีเดียว การใช้งานเฟซบุ๊คกรุ๊ปในเชิงธุรกิจและการตลาด สามารถทำได้ 2 ฝั่ง คือ ในฝั่งของแบรนด์ที่เปิด Group ให้สมาชิกมาเข้าร่วมกลุ่ม และฝั่งของการเป็นแบรนด์ไปขอเข้าร่วมกลุ่มต่าง ๆ ในฐานะสมาชิกกลุ่ม ซึ่งมีเทคนิคการใช้งานแตกต่างกัน  📌ในฝั่งของแบรนด์ เราสามารถทำประโยชน์อะไรได้บ้างจากการเปิด FACEBOOK GROUP 1. ได้มีพื้นที่ในการสื่อสารแบรนด์ที่ไม่จำกัดการเข้าถึง แม้ว่าเฟซบุ๊คกรุ๊ปจะไม่สามารถยิงโฆษณาได้เหมือนกับเพจธุรกิจ แต่การเข้าถึงของโพสต์บน Group ค่อนข้างดีกว่าเพจมาก จะมีสมาชิกกลุ่มเห็นโพสต์ของคุณจำนวนมาก ยิ่งถ้าสมาชิกกลุ่มตั้งค่าการมองเห็นเป็น See First มากเท่าไหร่ Reach ก็ยิ่งมีมากขึ้นไปเท่านั้น  การสื่อสารแบรนด์ที่คุณสามารถทำได้ในกลุ่มก็มีหลายอย่างเลยค่ะ เช่น อัพเดทข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรม Event ต่าง ๆ ของแบรนด์ ฯลฯ  2. ได้ภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะสินค้า/บริการที่ช่วยแก้ไขปัญหา (Pain Point Solution) แม้ Content หลักของกลุ่มจะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร แชร์ความคิดเห็นและประสบการณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราในฐานะแอดมินกลุ่มจะโพสต์นำเสนอสินค้าไม่ได้เลยนะคะ  ใน Group เราสามารถโพสต์นำเสนอสินค้าและบริการของแบรนด์ได้ แต่ต้องไม่ใช่การ Hard Sale เหมือนที่เราทำในเพจ  การนำเสนอสินค้า / บริการ แบบไม่ยัดเยียด แต่เป็น Solution หนึ่งให้กับสมาชิก พร้อมทั้งแบ่งปันความรู้และข้อมูลสนับสนุนจำนวนมากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความประทับใจในแบรนด์ กระทั่งช่วงชิงพื้นที่ในใจกลุ่มเป้าหมายได้เมื่อต้องมีการตัดสินใจซื้อ  3. ได้สร้าง Brand Lover / Brand Loyalty เมื่อสมาชิกกลุ่มเสพข้อมูลความรู้จากแบรนด์ของเราบ่อย ๆ ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือ ความผูกพัน ให้เกิดกับแบรนด์มากขึ้น กลายเป็น “ชุมชนคนรักแบรนด์” ของธุรกิจเราขึ้นมา  ที่สำคัญ หาก Content น่าสนใจ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจากสมาชิกกลุ่มจำนวนมาก โดยเฉพาะการแชร์ก็จะส่งผลให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก สร้าง Brand Awareness ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกกลุ่มคุณก็สามารถรับรู้ได้  4. ได้สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในใจกลุ่มเป้าหมาย โดยปกติ ภายในกลุ่มมักมีการสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ รีวิวสินค้า และประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้สินค้า / บริการ ของแบรนด์อยู่แล้ว และคนส่วนใหญ่ก็มักจะเชื่อถือรีวิวเหล่านี้มากกว่ารีวิวที่อยู่ในเพจ เพราะมองว่าเป็นรีวิวของจริง ที่แบรนด์ไม่ได้ make ขึ้นมา  5. เป็นพื้นที่ดูแลลูกค้าหลังการขายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แบรนด์สามารถเปิดเป็นกลุ่มสำหรับผู้ใช้สินค้า / บริการของแบรนด์โดยเฉพาะ และเปิดให้สมาชิกสามารถเข้ามาโพสต์สอบขอคำแนะนำการใช้ หรือ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ได้  มีข้อดีที่ต่างจากการให้ทักไปในเพจ คือ ในเพจจะมีข้อความหลากหลาย ทั้งจากผู้สนใจสินค้า คนสั่งซื้อ หรือแจ้งปัญหาการใช้งาน  📌ทำไมต้อง Facebook Group? การสร้างและการดูแล Facebook Group ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นวิธีชั้นเยี่ยมในการเพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่มลูกค้าของคุณ  ทั้งยังมีการศึกษาของ Facebook พบว่า Facebook Group มี Engagement (การตอบรับจากสมาชิก) ดีกว่า Facebook Page เสียอีก นั่นก็เพราะว่าสมาชิกสามารถเริ่มต้นบทสนทนาและเปิดประเด็นพูดคุยเมื่อไหร่ก็ได้  แต่เราไม่ได้บอกว่าทุกแบรนด์หรือร้านค้าต้องมี Facebook Group เป็นของตัวเอง เราแค่อยากแนะนำให้สร้างกลุ่ม Facebook ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกค้าของคุณ เพราะอย่าลืมว่าเมื่อสร้าง Facebook Group ขึ้นมาแล้ว คุณจะต้องมีเวลาดูแลกลุ่มและมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกกลุ่มด้วย ไม่อย่างนั้น Facebook Group ของร้านก็จะไร้ความหมายไปในทันที  หากจะพูดถึงข้อดีของ Facebook Group สำหรับร้านค้าหรือธุรกิจ เราก็รวบรวมมาให้ดังนี้ :-  1. Facebook Group เพิ่มคุณค่าให้ลูกค้าของคุณ หลายคนคิดว่า Facebook Group มีไว้เพื่อขายของเท่านั้น แต่รู้ไหมว่ากลุ่มเฟสบุ๊คมีดีมากกว่านั้น? นั่นก็คือ - เป็นที่ที่แบรนด์ ร้าน และลูกค้าได้พูดคุยกันโดยตรง - ปิดช่องว่างและเชื่อมต่อคุณกับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น - สามารถทดสอบไอเดียใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ - สร้างพื้นที่ของแบรนด์/ร้านของคุณให้เติบโตได้ด้วยกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกัน  2. Facebook Group คือแหล่งรวมคนรักแบรนด์/ร้านคุณ Facebook Group คือแหล่งรวมคนที่ชอบและสนใจอะไรคล้าย ๆ กัน ซึ่งแม้จะท้าทายสำหรับทางร้านและแบรนด์อยู่บ้าง แต่ก็ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น - เหมาะสำหรับคนที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี เช่น ยิงแอดเฟสบุ๊ค, โฆษณาบน Google, Email Marketing ฯลฯ - แค่สร้างเพจและชวนลูกค้าเข้ากลุ่มก็สื่อสารได้ทันที โดยคุณสามารถเชิญชวนได้ด้วยชื่อ Facebook และที่อยู่อีเมล (ซึ่งตรงนี้ทางร้านจะต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูลลูกค้า) - ทางร้านและลูกค้าสามารถโต้ตอบกันได้ทันที พูดคุยได้ทั้งเรื่องสินค้าหรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง - Facebook Group เป็นเหมือนกระบอกเสียงของแบรนด์ที่ช่วยสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี  3. Facebook Group ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษ ใคร ๆ ก็อยากรู้สึกพิเศษทั้งนั้น แล้ว Facebook Group สุดเอ็กซ์คลูซีฟก็ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดี ๆ กับร้านหรือแบรนด์ของคุณได้ นั่นก็เพราะว่า . . . - หากคุณตั้งกลุ่ม Facebook แบบส่วนตัว (Private Group) หรือเป็นกลุ่มลับ (Secret Group) แล้ว ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มของคุณได้ แต่ต้องเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบหรือสนใจแบรนด์ของคุณจริง ๆ - สมาชิกในกลุ่มหรือลูกค้าสามารถรับข้อมูลข่าวสารสุดอัพเดต โปรโมชั่นเด็ด ๆ หรืออีเว้นต์ดี ๆ จากร้านได้ก่อนใคร - สมาชิกกลุ่มที่เป็นลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้บนกลุ่มที่คุณสร้าง - ร้านสามารถมีส่วนร่วม ตอบข้อสงสัย และคอยให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างง่ายด่าย เป็นการสร้าง Customer Loyalty ไปในตัว  4. Facebook Group ช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงลูกค้า อย่างที่เราได้บอกไปว่า Facebook Group มี Engagement สูงกว่า Facebook Page เสียอีก และโอกาสที่ลูกค้าหรือสมาชิกกลุ่มจะเห็นโพสต์ก็ค่อนข้างสูง กลุ่มเฟสบุ๊คจึงมีแต่ข้อดีสำหรับแบรนด์/ร้านของคุณ - ให้แบรนด์/ร้านอยู่ในสายตาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย - ลดข้อจำกัดของ Facebook Algorithm และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น - ช่วยให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายบน Facebook ด้วยคอนเทนต์ของคุณ  📌ใช้ Facebook Group อย่างไรให้ได้ผล? Facebook Group ช่วยสร้างความภักดีของลูกค้า เพิ่มยอดขาย และช่วยให้คุณขยายธุรกิจได้เป็นอย่างดี และนี่คือ 4 วิธีใช้ Facebook Group ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ  1. ใส่ข้อมูลแต่ละส่วนของ Facebook Group ให้ครบ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ เพราะในขณะที่สร้างกลุ่มเฟสบุ๊ค คุณจะต้องใส่ข้อมูลให้ครบ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาเป็นสมาชิกรู้จุดประสงค์และรู้ว่ากลุ่มของคุณสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ซึ่งคุณจะต้องใส่ข้อมูลทุกส่วนต่อไปนี้ให้ครบ - ชื่อกลุ่ม – ชื่อร้าน/แบรนด์ - ภาพปกหรือ Cover Photo – เลือกภาพสวยงาม คมชัด แต่ต้องไม่เน้นขายสินค้า - เกี่ยวกับกลุ่ม – เล่าเรื่องราวหรือที่มาของกลุ่ม - กติกา – มีข้อตกลงการใช้งานสำหรับสมาชิกกลุ่ม เช่น ห้ามโพสต์ภาพลามกอนาจารและห้ามใช้คำหยาบคาย เป็นต้น - การตั้งค่ากลุ่ม – สาธารณะ, ส่วนตัว - URL – กำหนด URL ของ Facebook Group ทั้งนี้อย่าลืมเชื่อมต่อ Facebook Group เข้ากับ Facebook Page ของร้านด้วย และสามารถไปที่นี่เพื่อดูวิธีและทำตามขั้นตอนการสร้าง Facebook Group ได้เลย  2. โพสต์เป็นประจำ ความสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญของ Social Media ซึ่ง Facebook Group ก็คือหนึ่งในนั้น ดังนั้นหนึ่งในเคล็ดลับในการทำ Facebook Group ของร้านให้ประสบความสำเร็จก็คือ การโพสต์คอนเทนต์ในกลุ่มเฟสบุ๊คอย่างสม่ำเสมอ และเคล็ดลับที่เราอยากจะบอกก็คือ - มีธีมในการโพสต์ เช่น ทุก ๆ วันจันทร์โพสต์ต้อนรับสมาชิก วันพุธโพสต์เกี่ยวกับสินค้ามาใหม่/สินค้าขายดี และวันศุกร์โพสต์วิดีโอ หรือไลฟ์สดพูดคุยกับสมาชิกในกลุ่มเป็นต้น - โพสต์คำถามเพื่อสร้าง Engagement ในกลุ่ม เช่น ถามเกี่ยวกับสินค้าโปรดของลูกค้า, ฟีดแบ็คการใช้งานสินค้า, รีวิว ฯลฯ นอกจากนี้ทางร้านยังสามารถสร้างโพล และโพสต์อื่น ๆ ได้อีกมากมาย ขอให้เกี่ยวข้องกับแบรนด์และสมาชิกในกลุ่มเท่านั้นเอง ที่สำคัญต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกโพสต์ด้วยและต้องไม่เน้นขายจนเกินไป ให้จำไว้ว่า Facebook Group คือแหล่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกับลูกค้าของคุณ ไม่ใช่พื้นที่ที่คุณจะขายของตรง ๆ ได้แบบโฆษณาหรือยิงแอด  3. ตอบโพสต์และคอมเมนต์สมาชิกในกลุ่ม คนที่เข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มของคุณ ถ้าไม่ใช่คนที่ซื้อสินค้าอยู่แล้ว ก็เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสซื้อสินค้าสูงมาก ๆ ดังนั้นข้อควรปฏิบัติในข้อนี้ก็คือ - ตอบคอมเมนต์และโพสต์ของสมาชิกให้ครบทุกโพสต์ ทุกข้อความ - ตอบให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ - ถามคำถามลูกค้าเพิ่มเติมในโพสต์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับร้าน วิธีนี้จะช่วยสร้าง Engagement ทั้งยังกระตุ้นสมาชิกคนอื่น ๆ ให้มีส่วนร่วมด้วย และเมื่อทางร้านให้ความสำคัญกับความเห็นและตอบคำถามสมาชิก พวกเขาก็จะรู้สึกประทับใจและผูกพันกับร้านคุณโดยไม่รู้ตัว ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและ Customer Loyalty ลูกค้าเหล่านี้จึงมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าของร้านคุณบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ นั่นเอง  4. ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่จะโพสต์ในกลุ่ม อย่างที่เราได้บอกไปแล้วข้างต้นว่า คุณไม่ควรเน้นขายหรือฮาร์ดเซลล์ใน Facebook Group แต่คอนเทนต์ควรจะเป็นแนวกันเอง ชวนคุย หรือเป็นเรื่องราวพิเศษมากกว่า เช่น - บอกวิธีดูแลสินค้า - แจ้งข่าววันเปิดตัวสินค้าใหม่ - อีเวนต์ของแบรนด์/ร้าน - โปรโมชั่น - แนะนำ Brand Ambassador - คำถาม - แบบสำรวจ - ฯลฯ  ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >> https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

Facebook Group มีกี่ประเภท❓และสร้างฐานลูกค้าประจำได้อย่างไร❓


📌FACEBOOK GROUP คืออะไร?

คือ กลุ่มออนไลน์ ที่สมาชิกกลุ่มคือคนที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งฟอรั่มที่ Facebook เปิดโอกาสให้สร้างกลุ่มก็หลากหลายวาไรตี้มาก ตั้งแต่เรื่องไลฟสไตล์ ช้อปปิ้ง การแต่งตัว การกินเที่ยว งานอดิเรก ของสะสม ไปจนถึงการทำธุรกิจ การลงทุน ความเชื่อ ศาสนา ฯลฯ


ภายในกรุ๊ปจะมีการโพสต์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอข้อมูลความรู้ ทั้งแบบทั่วไปและในเชิงลึก ขอความช่วยเหลือบ้างก็มี ซึ่งเป็นไปภายใต้กติกาและข้อห้ามของแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไปตามแต่แอดมินกลุ่มจะกำหนด


เงื่อนไขการจะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มได้นั้น ต้องมีการกดขอเข้าร่วมกลุ่ม (join group) ก่อน โดยคำขอนี้จะส่ง notification ไปยังผู้ที่เป็นแอดมินกลุ่มได้ทราบ


บางกลุ่มอาจมีการคัดกรองด้วยการตอบคำถามบางข้อ และให้กดยอมรับกติการกลุ่มก่อน แอดมินจึงจะอนุมัติแล้วสมาชิกคนนั้นจึงจะสามารถเข้าชมเนื้อหาและโพสต์เนื้อหาลงในกลุ่มได้


📌FACEBOOK GROUP แตกต่างจาก FACEBOOK FANPAGE (เพจธุรกิจ) อย่างไร?

- เพจ

คือ พื้นที่สำหรับทำธุรกิจโดยเฉพาะ ทั้งสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ โปรโมทแบรนด์ สินค้า บริการ ธุรกิจ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ


ไว้ใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและผู้ที่สนใจในธุรกิจของคุณได้หลากหลายช่องทาง ทั้งสาธารณะและเป็นส่วนตัว และยังใช้ในการยิงโฆษณาเพจ/โพสต์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย


- กลุ่ม

คือ สถานที่สำหรับติดต่อพูดคุยเพื่อแบ่งปันความสนใจกับผู้คนกลุ่มหนึ่งที่เป็นสมาชิกซึ่งได้รับการอนุมัติแล้วว่ามีความสนใจตรงกัน


เป็นลักษณะคล้าย WebBoard หรือแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร และความคิดเห็น เน้นการ “สนทนา” กัน ไม่เน้นขายของ และไม่สามารถโฆษณาได้


ในด้านการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพจธุรกิจถูกจำกัดการเข้าถึงอยู่ประมาณ 1% หรือน้อยกว่า ของจำนวนคนกดไลค์เพจ หากแบรนด์ต้องการการเข้าถึงหรือการมีส่วนร่วมจำนวนมาก จำเป็นต้องทำการยิงโฆษณาเพจ/โพสต์


แตกต่างจาก Group ซึ่งมีอัตราการเข้าถึง หรือการมีส่วนร่วม ที่ดีกว่ามากแม้ว่าจะไม่สามารถโฆษณาได้ก็ตาม ทั้งนี้เพราะ Facebook ไม่ได้จำกัดการเข้าถึงของสมาชิกกลุ่ม ทำให้สมาชิกกลุ่มเกือบ 100% สามารถมองเห็นโพสต์ในกลุ่มได้


โดยจะเห็นโพสต์ช้าหรือเร็ว ความถี่ให้การมองเห็นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของสมาชิกแต่ละคนว่ากำหนดการมองเห็นเป็น See First หรือ Custom และขึ้นอยู่กับการตั้งค่า group notification ด้วย


📌เราจะใช้ FACEBOOK GROUP เพื่อการทำธุรกิจและการตลาดออนไลน์ได้อย่างไร?

ด้วยการทำงานของเฟซบุ๊คกรุ๊ปทำให้หลายคนมองว่าไม่ได้ส่งผลประโยชน์ในทางธุรกิจแต่อย่างใด เพราะขายของก็ไม่ได้ โฆษณาก็ไม่ได้ ทำให้หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญในการสร้าง Group และพลาดโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย


📌เพราะที่จริงแล้วเราสามารถนำมาใช้ในการทำธุรกิจและการตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพไม่แพ้ Facebook Fanpage เลยทีเดียว

การใช้งานเฟซบุ๊คกรุ๊ปในเชิงธุรกิจและการตลาด สามารถทำได้ 2 ฝั่ง คือ ในฝั่งของแบรนด์ที่เปิด Group ให้สมาชิกมาเข้าร่วมกลุ่ม และฝั่งของการเป็นแบรนด์ไปขอเข้าร่วมกลุ่มต่าง ๆ ในฐานะสมาชิกกลุ่ม ซึ่งมีเทคนิคการใช้งานแตกต่างกัน


📌ในฝั่งของแบรนด์ เราสามารถทำประโยชน์อะไรได้บ้างจากการเปิด FACEBOOK GROUP

1. ได้มีพื้นที่ในการสื่อสารแบรนด์ที่ไม่จำกัดการเข้าถึง

แม้ว่าเฟซบุ๊คกรุ๊ปจะไม่สามารถยิงโฆษณาได้เหมือนกับเพจธุรกิจ แต่การเข้าถึงของโพสต์บน Group ค่อนข้างดีกว่าเพจมาก จะมีสมาชิกกลุ่มเห็นโพสต์ของคุณจำนวนมาก ยิ่งถ้าสมาชิกกลุ่มตั้งค่าการมองเห็นเป็น See First มากเท่าไหร่ Reach ก็ยิ่งมีมากขึ้นไปเท่านั้น


การสื่อสารแบรนด์ที่คุณสามารถทำได้ในกลุ่มก็มีหลายอย่างเลยค่ะ เช่น อัพเดทข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรม Event ต่าง ๆ ของแบรนด์ ฯลฯ


2. ได้ภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะสินค้า/บริการที่ช่วยแก้ไขปัญหา (Pain Point Solution)

แม้ Content หลักของกลุ่มจะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร แชร์ความคิดเห็นและประสบการณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราในฐานะแอดมินกลุ่มจะโพสต์นำเสนอสินค้าไม่ได้เลยนะคะ


ใน Group เราสามารถโพสต์นำเสนอสินค้าและบริการของแบรนด์ได้ แต่ต้องไม่ใช่การ Hard Sale เหมือนที่เราทำในเพจ


การนำเสนอสินค้า / บริการ แบบไม่ยัดเยียด แต่เป็น Solution หนึ่งให้กับสมาชิก พร้อมทั้งแบ่งปันความรู้และข้อมูลสนับสนุนจำนวนมากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความประทับใจในแบรนด์ กระทั่งช่วงชิงพื้นที่ในใจกลุ่มเป้าหมายได้เมื่อต้องมีการตัดสินใจซื้อ


3. ได้สร้าง Brand Lover / Brand Loyalty

เมื่อสมาชิกกลุ่มเสพข้อมูลความรู้จากแบรนด์ของเราบ่อย ๆ ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือ ความผูกพัน ให้เกิดกับแบรนด์มากขึ้น กลายเป็น “ชุมชนคนรักแบรนด์” ของธุรกิจเราขึ้นมา


ที่สำคัญ หาก Content น่าสนใจ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจากสมาชิกกลุ่มจำนวนมาก โดยเฉพาะการแชร์ก็จะส่งผลให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก สร้าง Brand Awareness ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกกลุ่มคุณก็สามารถรับรู้ได้


4. ได้สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในใจกลุ่มเป้าหมาย

โดยปกติ ภายในกลุ่มมักมีการสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ รีวิวสินค้า และประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้สินค้า / บริการ ของแบรนด์อยู่แล้ว และคนส่วนใหญ่ก็มักจะเชื่อถือรีวิวเหล่านี้มากกว่ารีวิวที่อยู่ในเพจ เพราะมองว่าเป็นรีวิวของจริง ที่แบรนด์ไม่ได้ make ขึ้นมา


5. เป็นพื้นที่ดูแลลูกค้าหลังการขายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

แบรนด์สามารถเปิดเป็นกลุ่มสำหรับผู้ใช้สินค้า / บริการของแบรนด์โดยเฉพาะ และเปิดให้สมาชิกสามารถเข้ามาโพสต์สอบขอคำแนะนำการใช้ หรือ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ได้


มีข้อดีที่ต่างจากการให้ทักไปในเพจ คือ ในเพจจะมีข้อความหลากหลาย ทั้งจากผู้สนใจสินค้า คนสั่งซื้อ หรือแจ้งปัญหาการใช้งาน


📌ทำไมต้อง Facebook Group?

การสร้างและการดูแล Facebook Group ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นวิธีชั้นเยี่ยมในการเพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่มลูกค้าของคุณ


ทั้งยังมีการศึกษาของ Facebook พบว่า Facebook Group มี Engagement (การตอบรับจากสมาชิก) ดีกว่า Facebook Page เสียอีก นั่นก็เพราะว่าสมาชิกสามารถเริ่มต้นบทสนทนาและเปิดประเด็นพูดคุยเมื่อไหร่ก็ได้


แต่เราไม่ได้บอกว่าทุกแบรนด์หรือร้านค้าต้องมี Facebook Group เป็นของตัวเอง เราแค่อยากแนะนำให้สร้างกลุ่ม Facebook ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกค้าของคุณ เพราะอย่าลืมว่าเมื่อสร้าง Facebook Group ขึ้นมาแล้ว คุณจะต้องมีเวลาดูแลกลุ่มและมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกกลุ่มด้วย ไม่อย่างนั้น Facebook Group ของร้านก็จะไร้ความหมายไปในทันที


หากจะพูดถึงข้อดีของ Facebook Group สำหรับร้านค้าหรือธุรกิจ เราก็รวบรวมมาให้ดังนี้ :-


1. Facebook Group เพิ่มคุณค่าให้ลูกค้าของคุณ

หลายคนคิดว่า Facebook Group มีไว้เพื่อขายของเท่านั้น แต่รู้ไหมว่ากลุ่มเฟสบุ๊คมีดีมากกว่านั้น? นั่นก็คือ

- เป็นที่ที่แบรนด์ ร้าน และลูกค้าได้พูดคุยกันโดยตรง

- ปิดช่องว่างและเชื่อมต่อคุณกับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

- สามารถทดสอบไอเดียใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

- สร้างพื้นที่ของแบรนด์/ร้านของคุณให้เติบโตได้ด้วยกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกัน


2. Facebook Group คือแหล่งรวมคนรักแบรนด์/ร้านคุณ

Facebook Group คือแหล่งรวมคนที่ชอบและสนใจอะไรคล้าย ๆ กัน ซึ่งแม้จะท้าทายสำหรับทางร้านและแบรนด์อยู่บ้าง แต่ก็ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น

- เหมาะสำหรับคนที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี เช่น ยิงแอดเฟสบุ๊ค, โฆษณาบน Google, Email Marketing ฯลฯ

- แค่สร้างเพจและชวนลูกค้าเข้ากลุ่มก็สื่อสารได้ทันที โดยคุณสามารถเชิญชวนได้ด้วยชื่อ Facebook และที่อยู่อีเมล (ซึ่งตรงนี้ทางร้านจะต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูลลูกค้า)

- ทางร้านและลูกค้าสามารถโต้ตอบกันได้ทันที พูดคุยได้ทั้งเรื่องสินค้าหรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

- Facebook Group เป็นเหมือนกระบอกเสียงของแบรนด์ที่ช่วยสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี


3. Facebook Group ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษ

ใคร ๆ ก็อยากรู้สึกพิเศษทั้งนั้น แล้ว Facebook Group สุดเอ็กซ์คลูซีฟก็ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดี ๆ กับร้านหรือแบรนด์ของคุณได้ นั่นก็เพราะว่า . . .

- หากคุณตั้งกลุ่ม Facebook แบบส่วนตัว (Private Group) หรือเป็นกลุ่มลับ (Secret Group) แล้ว ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มของคุณได้ แต่ต้องเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบหรือสนใจแบรนด์ของคุณจริง ๆ

- สมาชิกในกลุ่มหรือลูกค้าสามารถรับข้อมูลข่าวสารสุดอัพเดต โปรโมชั่นเด็ด ๆ หรืออีเว้นต์ดี ๆ จากร้านได้ก่อนใคร

- สมาชิกกลุ่มที่เป็นลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้บนกลุ่มที่คุณสร้าง

- ร้านสามารถมีส่วนร่วม ตอบข้อสงสัย และคอยให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างง่ายด่าย เป็นการสร้าง Customer Loyalty ไปในตัว


4. Facebook Group ช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงลูกค้า

อย่างที่เราได้บอกไปว่า Facebook Group มี Engagement สูงกว่า Facebook Page เสียอีก และโอกาสที่ลูกค้าหรือสมาชิกกลุ่มจะเห็นโพสต์ก็ค่อนข้างสูง กลุ่มเฟสบุ๊คจึงมีแต่ข้อดีสำหรับแบรนด์/ร้านของคุณ

- ให้แบรนด์/ร้านอยู่ในสายตาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

- ลดข้อจำกัดของ Facebook Algorithm และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

- ช่วยให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายบน Facebook ด้วยคอนเทนต์ของคุณ


📌ใช้ Facebook Group อย่างไรให้ได้ผล?

Facebook Group ช่วยสร้างความภักดีของลูกค้า เพิ่มยอดขาย และช่วยให้คุณขยายธุรกิจได้เป็นอย่างดี และนี่คือ 4 วิธีใช้ Facebook Group ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ


1. ใส่ข้อมูลแต่ละส่วนของ Facebook Group ให้ครบ

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ เพราะในขณะที่สร้างกลุ่มเฟสบุ๊ค คุณจะต้องใส่ข้อมูลให้ครบ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาเป็นสมาชิกรู้จุดประสงค์และรู้ว่ากลุ่มของคุณสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ซึ่งคุณจะต้องใส่ข้อมูลทุกส่วนต่อไปนี้ให้ครบ

- ชื่อกลุ่ม – ชื่อร้าน/แบรนด์

- ภาพปกหรือ Cover Photo – เลือกภาพสวยงาม คมชัด แต่ต้องไม่เน้นขายสินค้า

- เกี่ยวกับกลุ่ม – เล่าเรื่องราวหรือที่มาของกลุ่ม

- กติกา – มีข้อตกลงการใช้งานสำหรับสมาชิกกลุ่ม เช่น ห้ามโพสต์ภาพลามกอนาจารและห้ามใช้คำหยาบคาย เป็นต้น

- การตั้งค่ากลุ่ม – สาธารณะ, ส่วนตัว

- URL – กำหนด URL ของ Facebook Group

ทั้งนี้อย่าลืมเชื่อมต่อ Facebook Group เข้ากับ Facebook Page ของร้านด้วย และสามารถไปที่นี่เพื่อดูวิธีและทำตามขั้นตอนการสร้าง Facebook Group ได้เลย


2. โพสต์เป็นประจำ

ความสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญของ Social Media ซึ่ง Facebook Group ก็คือหนึ่งในนั้น ดังนั้นหนึ่งในเคล็ดลับในการทำ Facebook Group ของร้านให้ประสบความสำเร็จก็คือ การโพสต์คอนเทนต์ในกลุ่มเฟสบุ๊คอย่างสม่ำเสมอ และเคล็ดลับที่เราอยากจะบอกก็คือ

- มีธีมในการโพสต์ เช่น ทุก ๆ วันจันทร์โพสต์ต้อนรับสมาชิก วันพุธโพสต์เกี่ยวกับสินค้ามาใหม่/สินค้าขายดี และวันศุกร์โพสต์วิดีโอ หรือไลฟ์สดพูดคุยกับสมาชิกในกลุ่มเป็นต้น

- โพสต์คำถามเพื่อสร้าง Engagement ในกลุ่ม เช่น ถามเกี่ยวกับสินค้าโปรดของลูกค้า, ฟีดแบ็คการใช้งานสินค้า, รีวิว ฯลฯ

นอกจากนี้ทางร้านยังสามารถสร้างโพล และโพสต์อื่น ๆ ได้อีกมากมาย ขอให้เกี่ยวข้องกับแบรนด์และสมาชิกในกลุ่มเท่านั้นเอง ที่สำคัญต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกโพสต์ด้วยและต้องไม่เน้นขายจนเกินไป ให้จำไว้ว่า Facebook Group คือแหล่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกับลูกค้าของคุณ ไม่ใช่พื้นที่ที่คุณจะขายของตรง ๆ ได้แบบโฆษณาหรือยิงแอด


3. ตอบโพสต์และคอมเมนต์สมาชิกในกลุ่ม

คนที่เข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มของคุณ ถ้าไม่ใช่คนที่ซื้อสินค้าอยู่แล้ว ก็เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสซื้อสินค้าสูงมาก ๆ ดังนั้นข้อควรปฏิบัติในข้อนี้ก็คือ

- ตอบคอมเมนต์และโพสต์ของสมาชิกให้ครบทุกโพสต์ ทุกข้อความ

- ตอบให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

- ถามคำถามลูกค้าเพิ่มเติมในโพสต์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับร้าน

วิธีนี้จะช่วยสร้าง Engagement ทั้งยังกระตุ้นสมาชิกคนอื่น ๆ ให้มีส่วนร่วมด้วย และเมื่อทางร้านให้ความสำคัญกับความเห็นและตอบคำถามสมาชิก พวกเขาก็จะรู้สึกประทับใจและผูกพันกับร้านคุณโดยไม่รู้ตัว ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและ Customer Loyalty ลูกค้าเหล่านี้จึงมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าของร้านคุณบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ นั่นเอง


4. ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่จะโพสต์ในกลุ่ม

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วข้างต้นว่า คุณไม่ควรเน้นขายหรือฮาร์ดเซลล์ใน Facebook Group แต่คอนเทนต์ควรจะเป็นแนวกันเอง ชวนคุย หรือเป็นเรื่องราวพิเศษมากกว่า เช่น

- บอกวิธีดูแลสินค้า

- แจ้งข่าววันเปิดตัวสินค้าใหม่

- อีเวนต์ของแบรนด์/ร้าน

- โปรโมชั่น

- แนะนำ Brand Ambassador

- คำถาม

- แบบสำรวจ

- ฯลฯ


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

แท็ก:

ดู 76 ครั้ง

Comments


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page