top of page

มาส่องเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2022✨


มาส่องเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2022✨  ผลัดเปลี่ยนจากปี 2021 สู่ปี 2022 มาดูกันสิว่าปีนี้มีเหรียญคริปโตอะไรที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เลยจะมาแนะนำ 20 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2022 กัน  1) Zipmex Token (ZMT) เหรียญนี้สร้างบน ERC - 20 มีทั้งหมด 200 ล้านเหรียญ และเติบโตได้เร็วถึง 200 % ซึ่ง ZMT ใช้ในแพลตฟอร์ม Centralize Exchange อย่าง Zipmex จุดเด่นนั่นก็คือ มีการลดค่าธรรมเนียมและการซื้อโทเคน พร้อมยังได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย เช่น โบนัสของโปรแกรม ZipUp แม้ว่าจะถือเหรียญไว้เฉย ๆ ก็ตาม หรือรางวัลพิเศษและส่วนลดจากร้านค้าที่เป็นพาทเนอร์  2) Ripple (XRP) โอนเงินไปต่างประเทศมันยุ่งยาก เหรียญนี้จึงถูกสร้างมาเพื่อการณ์นี้ ซึ่งเหรียญนี้ Ripple ได้สร้าง Ripple Protocol ด้วย Blockchain ที่จะช่วยตัดระบบตัวกลาง ลดขั้นตอนและเวลาในการทำธุรกรรม  3) Litecoin (LTC) นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหรียญที่พัฒนามาจาก Blockchain ของ Bitcoin จุดเด่นของเหรียญนี้คือ สามารถทำธุรกรรมได้ไวกว่า Bitcoin ถึง 4 เท่า  4) Bitcoin Cash (BCH) เหรียญนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องระยะเวลาการทำธุรกรรมกับค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น วิธีการสร้างก็พัฒนามาจาก Blockchain ของ Bitcoin โดยวิธีแบ่งเครือข่าย เหรียญนี้จึงเหมือนกับลูกของ Bitcoin   5) Cardano (ADA)  Cardano คือ แพลตฟอร์มการทำ Smart Contract และยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ขึ้นเป็น Ethereum Killer ซึ่งใช้หลักการแบบ Proof-of-Stake (PoS) ไม่ได้ใช้แบบ Proof-of-Work (PoW) นั่นก็คือ Cardano จะให้ผู้ใช้ Stake Token เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและจึงจะได้รับผลตอบแทน ไม่ใช่การขุดเหรียญ และ Cardano มีระบบ PoS ที่รู้จักกันในนามว่า โอโรฐรอส ซึ่งจะปรับขนาด ช่วยประหยัดพลังงาน และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในด้านความปลอดภัยก็สบายใจหายห่วง ส่วนเหรียญหลักที่ใช้ใน Cardano คือ ADA  6) Solana (SOL) Solana ใช้หลักการโปรโตคอลแบบ Hybrid (Proof-of-Stake และ Proof-of-History) และสามารถประมวลผลได้ไว มีความสามารถเรื่องการขยายตัว ซึ่งทาง Solana สร้างมาเพื่อธุรกรรมที่ค่าธรรมเนียมต่ำ พอเมื่อได้เปรียบเทียบเรื่องการประมวลผลแล้วก็ค่าธรรมเนียมกับ Ethereum จะเห็นได้ว่า ETH ประมวลผล ได้ 14 ธุรกรรมต่อวินาที แต่ SOL กลับประมวลผลได้ 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที ทำให้พวกค่าธรรมเนียมของ SOL จะถูกกว่า ETH  7) Terra (LUNA) Terra นั่นเอาไว้สร้าง Stablecoin และTerra USD (UST) ยังเป็น Stablecoin บน Ethereum Blockchain ที่เอาไว้ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ซึ่ง Terra มีจุดเด่นตรงที่เหรียญ Stablecoin ที่มากมายหลากหลาย แต่ละสกุลก็จะตึงมูลค่ากับเงิน Fiat ทาง Terra ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเสถียรให้กับเหรียญ เมื่อจำเป็นต้องชำระเงินข้างแพลตฟอร์มกัน จุดเด่นอีกหนึ่งข้อคือ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำและชำระเงินได้ไว  8) Algorand (ALGO) Algorand เป็น Blockchain แบบ Decentralized ที่ทำงานด้วยตัวเองได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง อีกทั้งยังได้ออกแบบมาเพื่อสามารถ Decentralized applications (dApps) ที่ขับเคลื่อนด้วยสกุลเงินได้ และยังสร้างเพื่อแก้ปัญหาจำนวนธุรกรรมของ Bitcoin และ Ethereum ได้ ในปัจจุบันมีการใช้ Algorand ทั้งในงานอสังหาริมทรัพย์ ลิขสิทธิ์ และMicrofinance   9) Avalanche (AVAX) Avalanche เป็น Blockchain Smart Contract แบบ Open-source สำหรับการพัฒนา Decentralized applications และการใช้แบบในองค์กร โดย Avalanche จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการขยายตัว เนื่องจาก Avalanche สามารถปรับขนาด ความเร็ว และการสื่อสารกับการทำงานระหว่าง Blockchain อื่น ๆ ซึ่ง Avalanche สามารถทำธุรกรรมได้มากกว่า 4,500 โดยมีเหรียญ AVAX เป็นตัวกลางทำสิ่งต่าง ๆ ในแพลตฟอร์ม  10) Decentraland (MANA) Decentraland เป็นโลกเสมือนจริง ที่ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินในรูปแบบ NFT โดยใช้เหรียญชนิดนี้ ซึ่ง Decentraland จะทำงานในระบบ  Ethereum Blockchain ตอนนี้ถือว่าเหรียญนี้ได้รับความสนใจมาก และนอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถโหวตปัญหาผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย  11) Binance (BNB) Binance เป็นสกุลเงินดิจิทัล ขับเคลื่อนด้วย Binance Smart Chain โดย BNB สามารถใช้ได้ทั้งในและนอกระบบ ยกตัวอย่าง ใช้ชำระเงินเงินบริการต่าง ๆ ใช้ในการเดินทาง เป็นต้น  12) GOLD หรือ xBullion GOLD เป็นเหรียญที่ใช้สำหรับการลงทุนกับทอง เพื่อลดปัญหาการเก็บทองคำ โดยถ้าหากลงเงินสกุลนี้ 1 เหรียญมีค่าเท่ากับทองคำ 1 กรัม  13) C8 Plus (C8P) C8 Plus เป็นเหรียญฝีมือคนไทย ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เหรียญนี้จะเป็นจุดเชื่อมระหว่าง Centralize Exchange และ Decentralize Exchange เพื่อช่วยลดความยุ่งยากและต้นทุนที่เกิดจากการฟาร์ม โดยที่แค่ซื้อเหรียญไว้ ระบบก็จะฟาร์มให้เอง เหมาะสำหรับคนที่อยากฟาร์มแต่เกลียดความยุ่งยาก ตัวนี้ถือว่าเหมาะมาก  14) Chainlink (LINK) Chainlink เป็นเหรียญบริการฐานข้อมูล Oracle แบบกระจายศูนย์ ที่จะเชื่อมข้อมูลธุรกิจกับ Blockchain โดยที่ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลที่เชื่อมกับฐานข้อมูล Oracle ไปสร้างระบบ Smart Contract ที่เป็นสัญญาซื้อขายหรือข้อตกลงทางธุรกิจแบบอัตโนมัติ ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลย เนื่องจากไม่สามารถปลอมแปลงเอกสารได้  15) OMG Network (OMG) OMG Network นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นคนไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการแลกเปลี่ยนอย่างอิสระที่ไม่มีตัวกลาง และเป็น Payment service บริการทั้งเงินดิจิทัลและปกติ โดยระบบจะทำให้จัดการเงินดิจิทัลและเงินจริง ๆ พร้อมกันได้  16) MKR MKR เป็น Token ที่อยู่ในระบบ Maker Protocol ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการกู้ยืม หรือ Lending Platform ที่สร้างขึ้นบน Ethereum ที่เป็น dapps ที่ใหญ่สุดใน Ethereum Blockchain MKR มีจุดประสงค์เพื่อรักษาความเสถียรของราคาเงิน DAI   17) Harmony (One) Harmony สร้างขึ้นเพื่อใช้งานคู่กับ DApps ทาง Harmony ใช้ระบบ PoS เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการตรวจสอบข้อมูลให้กับ Validator และเหรียญ One ยังสามารถนำไปใช้ Stake ซึ่งจะได้รายได้จาก Block Reward  18) Fantom (FTM) Fantom เป็นเครือข่าย Blockchain มีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหา Smart Contract ซึ่งจะช่วยเรื่องการย่นเวลาในการทำธุรกรรมและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ในเรื่องความปลอดภัยนับว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าแพลตฟอร์มที่ใช้ PoS แบบเดิม  19) Illuvium (ILV) Illuvium เกม NFT แนวสวมบทบาท ที่สร้างใน Ethereum Blockchain ซึ่ง Token ที่ใช้คือ ILV เพื่อเป็นรางวัลแก่การชนะเกม และยังให้สิทธิ์เข้าถึง Illuvium Vault อีกทั้งยังใช้เข้าร่วมระบบ Governance ผ่าน DAO ได้ด้วย  20) Stellar Lumens (XLM) Stellar Lumens เป็นโปรโตคอลแบบ Open source และ Decentralized มีจุดประสงค์เพื่อยย่นเวลาและลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมระหว่างเงินดิจิทัลและเงิน Fiat ช่วยให้ทำธุรกรรมข้ามคู่สกุลเงิน และยังช่วยลดค่าธรรมเนียมในกรณีที่ทำธุรกรรมที่มูลค่าน้อย ซึ่งเหรียญ XLM ถูกออกแบบเพื่อรองรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศทุกสกุลเงิน  ก็จบกันไปแล้วสำหรับ 20 เหรียญที่น่าลงทุนในปี 2022 แต่ละเหรียญที่ได้แนะนำไปก็จะมีจุดประสงค์และจุดเด่นที่ต่างกันออกไป หากสนใจก็ลองศึกษาเพิ่มเติมในเหรียญนั้น ๆ ก่อนลงทุนได้ เพราะอย่าลืมว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แรกเริ่มก็ลองลงน้อย ๆ ดูตลาดไปก่อน แล้วถ้ามั่นใจก็อาจเพิ่มทุนได้  ----------------------------------------------------------------------------------- สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด  | รับสร้างแบรนด์  | รับทำการตลาดออนไลน์  | รับทำแผนการตลาดออนไลน์  | รับสร้างแบรนด์  | รับดูแล Facebook แฟนเพจ  | รับดูแล LINE OA    สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง   รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์ >> https://www.chatstickmarket.com/langran  ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้ >> https://www.chatstickmarket.com/portfolio  ------------------------------------------------------------------------------------  💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙 📱Tel : 0840104252 📱0947805680 สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์) 📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH  ┏━━━━━━━━━┓ 📲 LINE: @chatstick ┗━━━━━━━━━┛ หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM  🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

มาส่องเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2022✨


ผลัดเปลี่ยนจากปี 2021 สู่ปี 2022 มาดูกันสิว่าปีนี้มีเหรียญคริปโตอะไรที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เลยจะมาแนะนำ 20 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2022 กัน


1) Zipmex Token (ZMT)

เหรียญนี้สร้างบน ERC - 20 มีทั้งหมด 200 ล้านเหรียญ และเติบโตได้เร็วถึง 200 % ซึ่ง ZMT ใช้ในแพลตฟอร์ม Centralize Exchange อย่าง Zipmex จุดเด่นนั่นก็คือ มีการลดค่าธรรมเนียมและการซื้อโทเคน พร้อมยังได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย เช่น โบนัสของโปรแกรม ZipUp แม้ว่าจะถือเหรียญไว้เฉย ๆ ก็ตาม หรือรางวัลพิเศษและส่วนลดจากร้านค้าที่เป็นพาทเนอร์


2) Ripple (XRP)

โอนเงินไปต่างประเทศมันยุ่งยาก เหรียญนี้จึงถูกสร้างมาเพื่อการณ์นี้ ซึ่งเหรียญนี้ Ripple ได้สร้าง Ripple Protocol ด้วย Blockchain ที่จะช่วยตัดระบบตัวกลาง ลดขั้นตอนและเวลาในการทำธุรกรรม


3) Litecoin (LTC)

นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหรียญที่พัฒนามาจาก Blockchain ของ Bitcoin จุดเด่นของเหรียญนี้คือ สามารถทำธุรกรรมได้ไวกว่า Bitcoin ถึง 4 เท่า


4) Bitcoin Cash (BCH)

เหรียญนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องระยะเวลาการทำธุรกรรมกับค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น วิธีการสร้างก็พัฒนามาจาก Blockchain ของ Bitcoin โดยวิธีแบ่งเครือข่าย เหรียญนี้จึงเหมือนกับลูกของ Bitcoin


5) Cardano (ADA)

Cardano คือ แพลตฟอร์มการทำ Smart Contract และยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ขึ้นเป็น Ethereum Killer ซึ่งใช้หลักการแบบ Proof-of-Stake (PoS) ไม่ได้ใช้แบบ Proof-of-Work (PoW) นั่นก็คือ Cardano จะให้ผู้ใช้ Stake Token เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและจึงจะได้รับผลตอบแทน ไม่ใช่การขุดเหรียญ และ Cardano มีระบบ PoS ที่รู้จักกันในนามว่า โอโรฐรอส ซึ่งจะปรับขนาด ช่วยประหยัดพลังงาน และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในด้านความปลอดภัยก็สบายใจหายห่วง ส่วนเหรียญหลักที่ใช้ใน Cardano คือ ADA


6) Solana (SOL)

Solana ใช้หลักการโปรโตคอลแบบ Hybrid (Proof-of-Stake และ Proof-of-History) และสามารถประมวลผลได้ไว มีความสามารถเรื่องการขยายตัว ซึ่งทาง Solana สร้างมาเพื่อธุรกรรมที่ค่าธรรมเนียมต่ำ พอเมื่อได้เปรียบเทียบเรื่องการประมวลผลแล้วก็ค่าธรรมเนียมกับ Ethereum จะเห็นได้ว่า ETH ประมวลผล ได้ 14 ธุรกรรมต่อวินาที แต่ SOL กลับประมวลผลได้ 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที ทำให้พวกค่าธรรมเนียมของ SOL จะถูกกว่า ETH


7) Terra (LUNA)

Terra นั่นเอาไว้สร้าง Stablecoin และTerra USD (UST) ยังเป็น Stablecoin บน Ethereum Blockchain ที่เอาไว้ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ซึ่ง Terra มีจุดเด่นตรงที่เหรียญ Stablecoin ที่มากมายหลากหลาย แต่ละสกุลก็จะตึงมูลค่ากับเงิน Fiat ทาง Terra ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเสถียรให้กับเหรียญ เมื่อจำเป็นต้องชำระเงินข้างแพลตฟอร์มกัน จุดเด่นอีกหนึ่งข้อคือ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำและชำระเงินได้ไว


8) Algorand (ALGO)

Algorand เป็น Blockchain แบบ Decentralized ที่ทำงานด้วยตัวเองได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง อีกทั้งยังได้ออกแบบมาเพื่อสามารถ Decentralized applications (dApps) ที่ขับเคลื่อนด้วยสกุลเงินได้ และยังสร้างเพื่อแก้ปัญหาจำนวนธุรกรรมของ Bitcoin และ Ethereum ได้ ในปัจจุบันมีการใช้ Algorand ทั้งในงานอสังหาริมทรัพย์ ลิขสิทธิ์ และMicrofinance


9) Avalanche (AVAX)

Avalanche เป็น Blockchain Smart Contract แบบ Open-source สำหรับการพัฒนา Decentralized applications และการใช้แบบในองค์กร โดย Avalanche จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการขยายตัว เนื่องจาก Avalanche สามารถปรับขนาด ความเร็ว และการสื่อสารกับการทำงานระหว่าง Blockchain อื่น ๆ ซึ่ง Avalanche สามารถทำธุรกรรมได้มากกว่า 4,500 โดยมีเหรียญ AVAX เป็นตัวกลางทำสิ่งต่าง ๆ ในแพลตฟอร์ม


10) Decentraland (MANA)

Decentraland เป็นโลกเสมือนจริง ที่ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินในรูปแบบ NFT โดยใช้เหรียญชนิดนี้ ซึ่ง Decentraland จะทำงานในระบบ Ethereum Blockchain ตอนนี้ถือว่าเหรียญนี้ได้รับความสนใจมาก และนอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถโหวตปัญหาผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย


11) Binance (BNB)

Binance เป็นสกุลเงินดิจิทัล ขับเคลื่อนด้วย Binance Smart Chain โดย BNB สามารถใช้ได้ทั้งในและนอกระบบ ยกตัวอย่าง ใช้ชำระเงินเงินบริการต่าง ๆ ใช้ในการเดินทาง เป็นต้น


12) GOLD หรือ xBullion

GOLD เป็นเหรียญที่ใช้สำหรับการลงทุนกับทอง เพื่อลดปัญหาการเก็บทองคำ โดยถ้าหากลงเงินสกุลนี้ 1 เหรียญมีค่าเท่ากับทองคำ 1 กรัม


13) C8 Plus (C8P)

C8 Plus เป็นเหรียญฝีมือคนไทย ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เหรียญนี้จะเป็นจุดเชื่อมระหว่าง Centralize Exchange และ Decentralize Exchange เพื่อช่วยลดความยุ่งยากและต้นทุนที่เกิดจากการฟาร์ม โดยที่แค่ซื้อเหรียญไว้ ระบบก็จะฟาร์มให้เอง เหมาะสำหรับคนที่อยากฟาร์มแต่เกลียดความยุ่งยาก ตัวนี้ถือว่าเหมาะมาก


14) Chainlink (LINK)

Chainlink เป็นเหรียญบริการฐานข้อมูล Oracle แบบกระจายศูนย์ ที่จะเชื่อมข้อมูลธุรกิจกับ Blockchain โดยที่ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลที่เชื่อมกับฐานข้อมูล Oracle ไปสร้างระบบ Smart Contract ที่เป็นสัญญาซื้อขายหรือข้อตกลงทางธุรกิจแบบอัตโนมัติ ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลย เนื่องจากไม่สามารถปลอมแปลงเอกสารได้


15) OMG Network (OMG)

OMG Network นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นคนไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการแลกเปลี่ยนอย่างอิสระที่ไม่มีตัวกลาง และเป็น Payment service บริการทั้งเงินดิจิทัลและปกติ โดยระบบจะทำให้จัดการเงินดิจิทัลและเงินจริง ๆ พร้อมกันได้


16) MKR

MKR เป็น Token ที่อยู่ในระบบ Maker Protocol ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการกู้ยืม หรือ Lending Platform ที่สร้างขึ้นบน Ethereum ที่เป็น dapps ที่ใหญ่สุดใน Ethereum Blockchain MKR มีจุดประสงค์เพื่อรักษาความเสถียรของราคาเงิน DAI


17) Harmony (One)

Harmony สร้างขึ้นเพื่อใช้งานคู่กับ DApps ทาง Harmony ใช้ระบบ PoS เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการตรวจสอบข้อมูลให้กับ Validator และเหรียญ One ยังสามารถนำไปใช้ Stake ซึ่งจะได้รายได้จาก Block Reward


18) Fantom (FTM)

Fantom เป็นเครือข่าย Blockchain มีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหา Smart Contract ซึ่งจะช่วยเรื่องการย่นเวลาในการทำธุรกรรมและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ในเรื่องความปลอดภัยนับว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าแพลตฟอร์มที่ใช้ PoS แบบเดิม


19) Illuvium (ILV)

Illuvium เกม NFT แนวสวมบทบาท ที่สร้างใน Ethereum Blockchain ซึ่ง Token ที่ใช้คือ ILV เพื่อเป็นรางวัลแก่การชนะเกม และยังให้สิทธิ์เข้าถึง Illuvium Vault อีกทั้งยังใช้เข้าร่วมระบบ Governance ผ่าน DAO ได้ด้วย


20) Stellar Lumens (XLM)

Stellar Lumens เป็นโปรโตคอลแบบ Open source และ Decentralized มีจุดประสงค์เพื่อยย่นเวลาและลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมระหว่างเงินดิจิทัลและเงิน Fiat ช่วยให้ทำธุรกรรมข้ามคู่สกุลเงิน และยังช่วยลดค่าธรรมเนียมในกรณีที่ทำธุรกรรมที่มูลค่าน้อย ซึ่งเหรียญ XLM ถูกออกแบบเพื่อรองรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศทุกสกุลเงิน


ก็จบกันไปแล้วสำหรับ 20 เหรียญที่น่าลงทุนในปี 2022 แต่ละเหรียญที่ได้แนะนำไปก็จะมีจุดประสงค์และจุดเด่นที่ต่างกันออกไป หากสนใจก็ลองศึกษาเพิ่มเติมในเหรียญนั้น ๆ ก่อนลงทุนได้ เพราะอย่าลืมว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แรกเริ่มก็ลองลงน้อย ๆ ดูตลาดไปก่อน แล้วถ้ามั่นใจก็อาจเพิ่มทุนได้


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

แท็ก:

ดู 1 ครั้ง

โพสต์ที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page