top of page

10 เทคนิคเซลล์มือใหม่ ที่คนอื่นไม่เคยบอกคุณ✨


10 เทคนิคเซลล์มือใหม่ ที่คนอื่นไม่เคยบอกคุณ✨


อาชีพนักขายหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเซลล์ (Sales) เป็นงานที่มีความต้องการเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดแรงงานอยู่ตลอดเวลา เพราะมีความสำคัญกับแทบทุกองค์กร เนื่องจากเป็นคนที่หารายได้เข้ามาสู่องค์กรนั่นเอง เพราะแม้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่หากไม่มีการนำเสนอขายสินค้าได้อย่างน่าสนใจ หรือไม่มีคนคอยอธิบายถึงจุดเด่นหรือประโยชน์ของสินค้าก็อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าในการซื้อสินค้าได้


อย่างไรก็ตามงานนักขายนั้น แม้จะเป็นงานที่ไม่ว่าเรียนจบสายไหนมาก็สามารถทำได้ถ้ามีใจรัก และชอบการสื่อสาร แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีอีกหลายทักษะเช่นกันที่คนเป็นนักขายควรจะมี เพื่อให้เป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จ


1. แต่งกายและจัดทรงผมให้มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด

การแต่งกายที่มาพร้อมกับทรงผมที่ดูดีจะทำให้คุณได้คะแนน “เป็นบวก” กับลูกค้าและเจ้านาย รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของคุณ การแต่งกายที่ดูดีไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใส่สูทแบบ Tailor-Made แบบเต็มยศเหมือนในหนังนักธุรกิจ เพราะมันจะทำให้คุณผลาญงบไปกับการแต่งกายมากเกินไป (เงินเดือนคุณยังไม่มากนัก ฮา) แถมบางทียังแต่งตัว “ข้ามหน้าข้ามตา” หัวหน้าของคุณซะด้วย การแต่งกายแบบเรียบง่ายและประหยัดงบที่สุดคือการซื้อแต่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล๊กสีดำ รองเท้าหนังสีดำ พร้อมกับเนคไทสีสุภาพ เพียงเท่านี้คุณก็กลายเป็นนักขายที่ดูดีแบบมืออาชีพสไตล์ “White Collar” ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกแล้ว


ส่วนทรงผม สำหรับท่านชายควรเน้นการเซ็ตผมสั้นตามแบบสมัยนิยม ยุคนี้อาจจะตัดผมทรง “Vintage” พร้อมกับใส่เจลแบบปาดๆ เรียบๆ ก็ทำให้คุณดูดีและดูภูมิฐานเกินอายุได้ ส่งผลให้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นตามมา จงหลีกเลี่ยงการไว้ผมยาว ส่วนสุภาพสตรีก็แต่งกายและตัดผมตามสมัยนิยม


2. เรียนรู้งานให้ไวจาก “ท็อปเซลล์” ของบริษัท

เป็นอีกวิธีการนึงที่ง่ายและเป็นไปได้มากที่สุด เมื่อเริ่มงานใหม่ในบริษัท จงสืบค้นข้อมูลและเช็คดูว่ารุ่นพี่คนไหนคือเซลล์ที่เก่งกาจและได้รับการยอมรับมากที่สุดในบริษัท ทั้งในเรื่องยอดขายและบุคลิกภาพ จงเข้าไปแนะนำตัวอย่างนอบน้อมและแสดงความเคารพเพื่อให้พวกเขาเป็นเมนทอร์ (Mentor) ของคุณในการทำงาน คุณจะได้เรียนรู้จากมืออาชีพที่ถนัดขายสินค้าของบริษัทคุณตั้งแต่บุคลิกภาพที่ดี การถามคำถาม การนำเสนอ การติดตามงาน ไปจนถึงการปิดการขาย ถ้าเป็นไปได้ จงขอโอกาสเจ้านายหรือพวกเขาเพื่อติดตามเข้าพบลูกค้าในแต่ละครั้ง จงจดวิธีการทำงานของพวกเขาทั้งหมด สงสัยอะไรก็ควรถามพวกเขาให้ละเอียด จากนั้นนำมาใช้พัฒนาตัวเองตลอดเวลา


3. ลิ้มรส “การโดนปฎิเสธ” ให้ไวและมากที่สุด

ต่อให้คุณเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์มือถืออย่างไอโฟนที่ทั้งโลกให้การยอมรับ แต่คุณก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนซื้อได้อยู่ดี ลูกค้ามีตัวเลือกอย่างอื่นอยู่เสมอ ขนาดระดับโลกยังโดนปฎิเสธได้ แล้วตัวคุณเองจะใส่ใจกับเรื่องนี้ไปทำไมครับ


วิธีการฝึกโดนปฎิเสธขั้นเบสิกเลยก็คือ “การโทรทำนัด” ซึ่งมือใหม่อย่างคุณมีแนวโน้มว่าจะโดนปฎิเสธการรับนัดแน่นอน จงจำความรู้สึกเหล่านั้นไว้ดีๆ และปล่อยวาง จากนั้นให้นั่งทบทวนตัวเองอยู่สม่ำเสมอว่าเพราะเหตุใดคุณถึงโดนปฎิเสธ เช่น สคริปฟังแล้วไม่น่าสนใจ น้ำเสียงไม่น่าฟัง โทรหาลูกค้าผิดคน ฯลฯ เพื่อนำมันมาแก้ไขและปรับปรุง นี่คือตัวอย่างของการโดนปฎิเสธที่จะทำให้คุณเก่งขึ้นจากการฝึกฝนตัวเอง


การโดนปฎิเสธอีกอย่างจากลูกค้าก็คือการนำเสนองานและคุณเองเป็นฝ่ายแพ้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ถ้าลูกค้าไม่ซื้อก็ถือว่าคุณโดนปฎิเสธ จงเอาความพ่ายแพ้นั้นมาวิเคราะห์ให้ละเอียด เช่น แพ้เพราะข้อเสนอที่ไม่ดีเท่าคู่แข่ง ตามงานไม่สม่ำเสมอ ความน่าเชื่อถือยังน้อย ไม่มีโอกาสพบผู้มีอำนาจตัดสินใจ ฯลฯ ซึ่งทุกครั้งที่แพ้ จง “โทษตัวเอง” และวิเคราะห์สิ่งที่ตัวเองทำก่อน อย่าโทษคนอื่น โดยเฉพาะคู่แข่ง


4. เรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการโดยมุ่งเน้นเรื่อง “ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ”

เป็นนักขายก็ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทตนเองด้วย จงนำข้อมูลทั้งหมดในบริษัทมาศึกษาทั้งในเวลางานและนอกเวลางาน รวมทั้งศึกษางานจริงกับลูกค้าปัจจุบันที่แฮปปี้กับสินค้าในบริษัทคุณให้ละเอียด แต่ยังมีอีกส่วนนึงที่คุณต้องทำการบ้านเพิ่มเติม นั่นคือประโยชน์ที่ลูกค้าคุณได้รับถ้าใช้สินค้าและบริการของคุณ เช่น คุณขายระบบกล้องวงจรปิดแบบองค์กรที่มีเทคโนโลยีล้ำเลิศ คุณควรเน้นการนำเสนอด้านประโยชน์ต่อตัวลูกค้าก่อน เช่น ได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ได้รับความสะดวกสบายจากการใช้งานเพิ่มขึ้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยินมากที่สุดและจะทำให้การนำเสนอของคุณมีคุณค่าต่อตัวลูกค้ามากยิ่งขึ้น


5. ควรไตร่ตรองให้ดีก่อนเกี่ยวกับการ “ซื้อรถ” เพื่อใช้ในการทำงาน

การเริ่มต้นเป็นพนักงานใหม่ เป็นไปได้ว่าเงินเดือนและค่าตอบแทนต่างๆ ของคุณยังไม่สูงมากนัก การพิจารณาซื้อรถเพราะ “โดนกดดัน” จากบริษัท เช่น เจ้านายแนะนำให้ซื้อรถมาใช้เพื่อให้ทำงานได้สะดวกสบายขึ้น แต่การซื้อรถถือว่าเป็น “ภาระ” ก้อนใหญ่ที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก


ต่อให้ซื้อรถอีโค่คาร์ก็ไม่แน่ว่าคุณจะมีเงินมากพอประทังชีวิต วิธีการที่ผมแนะนำก็คือ การเลือกที่พักที่ใกล้กับย่านธุรกิจหรือแหล่งที่ลูกค้าของคุณตั้งอยู่ วางแผนการเดินทางด้วยการใช้รถเมล์ รถไฟฟ้า และรถตู้อย่างมีประสิทธิภาพทุกครั้ง พยายามใช้เวลากับลูกค้าแต่ละรายให้น้อยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด มุ่งเน้นไปในเรื่องการทำนัดลูกค้าที่อยู่ในละแวกเดียวกันเพื่อประหยัดเวลา


6. จงพยายามหาลูกค้าใหม่ที่ยังไม่มีนักขายคนไหนเข้าไปขาย

คุณเป็นน้องใหม่ เป็นไปได้มากว่าคุณจะได้ดูแล “ลูกค้าห่วยๆ” ถ้าคุณมีตำแหน่งว่า “Account Manager” เพราะ “ลูกค้าดีๆ” ที่ทำเงินอย่างสม่ำเสมอย่อมตกไปอยู่ในมือของท็อปเซลล์อยู่แล้ว ท็อปเซลล์ได้ดูแลลูกค้าชั้นดี อาจเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเขามีความพยายามเข้าไปขายลูกค้าห่วยๆ จนเกิดการซื้อขายต่อเนื่องและกลายเป็นลูกค้าชั้นดี ขอบอกเลยว่านี่คือสุดยอดนักขายเลยล่ะครับ คุณมาทีหลังจึงจำเป็นที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในเรื่องนี้อย่างหนัก


ที่สำคัญคือการค้นหาลูกค้าใหม่ด้วยตนเองจะทำให้เจ้านายและเจ้าของบริษัทของคุณชื่นใจมากๆ คุณจะกลายเป็นดาวเด่นทันที ผิดกับนักขายรุ่นลายครามบางคนที่ได้ตัวเลขจากลูกค้าทำเงินเท่านั้น แต่ไม่เคยหาลูกค้าใหม่เลย คนกลุ่มนี้ในระยะยาวจะแพ้คุณเพราะคุณเป็นคนสร้างความต้องการให้กับลูกค้า


7. จงสร้างบัญชีใน Linkedin.com และใช้มันหาลูกค้าให้มากที่สุด

ลิงค์อินเป็นโซเชี่ยลมีเดียสำหรับคนทำงานที่ผมพูดถึงมันอยู่บ่อยครั้ง มันคือแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่สร้างโอกาสในงานใหม่ๆ ของคุณ อีกทั้งยังมี “รายชื่อลูกค้า” โดยเฉพาะบุคคลระดับผู้มีอำนาจตัดสินใจของบริษัทที่หลากหลายทั้งดังและไม่ดัง คุณต้องสร้างบัญชีของคุณเหมือนในเฟสบุ้คเดี๋ยวนี้้ อัพเดทข้อมูลให้ดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด ใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น จากนั้นเรียนรู้การใช้งานให้ครบถ้วนและใช้มันค้นหา “รายชื่อลูกค้า” ซึ่งคุณสามารถแอดเป็นเพื่อนเพื่อโทรทำนัดหรือส่งข้อความไปหาพวกเขาเพื่อโทรทำนัดได้อีกด้วย คุณเป็นคนรุ่นใหม่จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่สะดวกสบายเหล่านี้ให้คล่อง เพราะเซลล์รุ่นเก่าไม่ค่อยใช้กัน เพียงเท่านี้คุณก็ได้เปรียบพวกเขามาก


8. จงทำความเข้าใจว่าการขายเป็นเรื่องของกระบวนการ

ทัศนคติสำหรับอาชีพเซลล์ในหัวของใครหลายๆ คนมักจะคิดว่าอาชีพนี้ต้องขี้โม้ หน้าเงิน พูดเก่ง เป็นนักตื๊อ นักเอนเตอร์เทน ฯลฯ เพราะนักขายมืออาชีพและนักธุรกิจชั้นเลิศจะทราบดีว่าการขายเป็นเรื่องของกระบวนการ ไล่ตั้งแต่การหารายชื่อลูกค้าที่น่าซื้อคุณ การติดต่อทำนัด การถามคำถาม การนำเสนอ การติดตามงาน ไปจนถึงการปิดการขายและการดูแลลูกค้าหลังการขาย เรื่องเหล่านี้จำเป็นจะต้องมีการวัดผลว่าลูกค้าแต่ละรายนั้นอยู่ในขั้นตอนไหนบ้างแล้ว


เครื่องมือที่สำคัญสำหรับการวัดผลการทำงานและบันทึกสถานะของลูกค้าในแต่ละขั้นตอนก็คือ “รายงานการขาย” (Sales Report) ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อแต่อย่างใด ประโยชน์ต่อตัวคุณเองคือคุณจะไม่ลืมว่าสถานะการขายของลูกค้าแต่ละรายนั้นอยู่ในขั้นตอนไหน วางแผนว่าจะตามงานต่อไปได้อย่างไร ทำให้คุณรู้ว่าแต่ละวันจะต้องทำอะไรเพื่อให้การขายนั้นคืบหน้ามากขึ้น นี่คือทัศนคติด้านการขายที่คุณต้องมีมันอยู่ในหัว เรื่องนี้เป็นตัวชี้วัดระหว่างนักขายมืออาชีพกับนักขายทั่วๆ ไปอย่างชัดเจน การลงมือทำเรื่องเหล่านี้จะทำให้คุณเนื้อหอมมาก ในกรณีที่คุณต้องการร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติระดับโลก เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่า “ปาก” ซะอีก


9. อ่านบทความของเซลล์ร้อยล้านทุกวัน

การอ่านบทความหรืออ่านหนังสือด้านการขายดีๆ ในทุกๆ วันเป็นการเติมอาหารสมองที่ดีและทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น การอ่านก็เหมือนการ “แกะรอยหยักสมอง” ของคนเขียนที่มากประสบการณ์ที่ถ่ายถอดออกมาเป็นบทความ ขอให้คุณพิจารณาและนำไปปรับใช้กับการทำงานของตัวเองทุกครั้ง


10. ตั้งเป้าหมายให้ยิ่งใหญ่ทุกครั้ง

อาชีพนักขายคืออาชีพที่มีบทบาททางธุรกิจของแต่ละองค์กรมากที่สุด เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ขององค์กรเลยก็ว่าได้ คุณคือคนที่อยู่ใกล้ชิดกับ “ผลประโยชน์” ของบริษัทมากที่สุด นั่นก็คือเงินนั่นเอง จงฝันให้ยิ่งใหญ่ ตั้งเป้าไปเลยว่าตัดสินใจมาทำอาชีพนี้เพราะ “อยากรวย” ไม่ต้องอายใคร ประกาศและเขียนเป้าว่าอยากได้ค่าคอมปีละกี่แสน กี่ล้าน ก็เขียนไปได้เลย


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

ดู 2,143 ครั้ง
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page