top of page

📣7 วิธีการเป็น Telesales ที่ดี พร้อมขั้นตอนปิดการขายทางโทรศัพท์


📣7 วิธีการเป็น Telesales ที่ดี พร้อมขั้นตอนปิดการขายทางโทรศัพท์  เมื่อเห็นคำว่า “sales” แน่นอนที่ต้องเกี่ยวข้องกับการขายไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าหรือบริการอื่นๆ  ส่วนคำว่า “Tele” นั้นคือจะเกี่ยวข้องกับการโทร การติดต่อสื่อสาร  เมื่อนำสองคำมารวมกันจะแปลได้ตรงตัวเลยคือ “พนักงานขายสินค้าและบริการผ่านทางโทรศัพท์”  ซึ่งการเป็น Telesales นั้นเป็นได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากถ้าเรามีความมุ่งมั่นและพยายาม

📣7 วิธีการเป็น Telesales ที่ดี พร้อมขั้นตอนปิดการขายทางโทรศัพท์


เมื่อเห็นคำว่า “sales” แน่นอนที่ต้องเกี่ยวข้องกับการขายไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าหรือบริการอื่นๆ


ส่วนคำว่า “Tele” นั้นคือจะเกี่ยวข้องกับการโทร การติดต่อสื่อสาร


เมื่อนำสองคำมารวมกันจะแปลได้ตรงตัวเลยคือ “พนักงานขายสินค้าและบริการผ่านทางโทรศัพท์”


ซึ่งการเป็น Telesales นั้นเป็นได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากถ้าเรามีความมุ่งมั่นและพยายาม


หน้าที่หลักๆ ของพนักงาน Telesales คือการติดต่อหาลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์ โดยใช้ทักษะการพูดคุย การใช้น้ำเสียงที่ไพเราะน่าฟัง และใช้จิตวิทยาในการโน้มน้าวในการปิดการขายในสายให้ได้ ซึ่งพนักงาน Telesales แต่ละจะคนใช้ทักษะในการปิดการขายไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถ การฝึกฝน และประสบการณ์ในการพูดคุยกับลูกค้าหลายๆ แบบนำมาปรับใช้กลยุทธ์ในการปิดการขายในสายให้ได้


และซึ่งหัวใจหลักๆ ของการเป็น sales แน่นอนคือค่า คอมมิชชั่น อาชีพ Telesales ก็เช่นกัน ที่มีค่าคอมมิชชั่นเป็นแรงจูงใจที่สำคัญของอาชีพนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับยอดขายจากการปิดการขายผ่านทางโทรศัพท์นั่นเอง


ดังนั้นการเป็น Telesales ควรมีความมุ่งมั่นในการใช้ทักษะต่างๆ เพื่อโน้มน้าวในการปิดการขายให้ได้


เซลล์ร้อยล้านเองก็เคยทำงานเป็นเทเลเซลล์ ในตำแหน่ง “Inside Sales” ของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันแห่งหนึ่ง พูดตรงๆ ตามชื่อตำแหน่งเลยก็คือตรงกันข้ามกับ “Outside Sales” ที่ได้ออกตลาดไปเจอลูกค้าต่อหน้าแน่นอน ส่วนผมเองต้องนั่งโทรศัพท์ขายของจากที่ประเทศมาเลเซียไปที่ประเทศไทยแบบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน


จึงทราบดีว่าอาชีพนี้จะต้อง “ใจสู้” จากข้อเสียเปรียบจากการที่ไม่ได้ขายของต่อหน้าลูกค้าเป็นอย่างมาก การเรียนรู้เนื้องานจากองค์กรระดับโลกทำให้ผมรู้วิธีที่คุณสามารถประสบความสำเร็จจากการขายผ่านโทรศัพท์ได้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญคืออาชีพนี้มีข้อได้เปรียบมากกว่านักขายที่ต้องออกตลาดอยู่เสมอ ดังนี้

- ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเข้าพบลูกค้า

- ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง

- มีเวลาโทรขายของลูกค้าตลอดการทำงาน

- สามารถโทรขายของได้มากกว่า 100-300 สายต่อวัน

- ใช้เวลาในปิดการขายระยะสั้น

- เหมาะกับสินค้าที่สามารถนำเสนอแบบปากเปล่าได้

- เหมาะกับธุรกิจที่เน้นการเชื้อเชิญหรือทำนัดให้ลูกค้ามาดูสินค้าจริงหน้างาน

- สนับสนุนการทำงานดูแลลูกค้าหลังการขายได้เป็นอย่างดี

จึงขอแชร์วิธีการเป็นเทเลเซลล์หรือพนักงานขายผ่านโทรศัพท์ที่ดี พร้อมวิธีปิดการขายที่เฉียบคม ดังนี้


1. คุณจะต้องมีลีดรายชื่อลูกค้าที่ดีก่อน

ถ้าคุณทำงานในบริษัทชั้นนำ คุณจะมีข้อได้เปรียบเพราะบริษัทจะทำการซื้อหรือว่ามีฐานข้อมูลลูกค้าเก่าและใหม่มาให้คุณโทรทันที ตัวอย่างเช่นบริษัทเครือข่ายมือถือ พวกเขาจะมีรายชื่อลูกค้าปัจจุบันที่บอกสถานะแทบทุกอย่างเกี่ยวกับอายุ ค่าโทรศัพท์แต่ละเดือน คุณจึงสามารถนำเสนอขายสินค้าหรือบริการที่เหมาะกับความต้องการแก่ลูกค้าได้ตรงจุดอย่างการนำเสนอแพคเกจโทรศัพท์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเพิ่มขึ้น เป็นต้น


ยิ่งธุรกิจการเงินยิ่งแล้วใหญ่ พวกเขารู้เงินในกระเป๋าของลีดลูกค้า ดังนั้นการนำเสนอขายบัตรเครดิต ขายประกัน ขายเงินกู้ จึงมีแนวโน้มว่าคุณจะได้ลูกค้าง่ายขึ้น แต่ถ้าบริษัทคุณไม่มีลีดรายชื่อดีๆ เลย การค้นหาด้วยตนเองผ่านลิ้งก์อิน (LinkedIn) หรือแม้แต่บนโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กเช่น เฟซบุ้ค ไอจี เว็บไซต์ ฯลฯ


แบบดิบๆ ก็อาจทำให้คุณได้ลีดมาบ้าง คุณภาพมากน้อยขึ้นอยู่กับสังคมออนไลน์ที่คุณไปสิงอยู่ และต้องขึ้นอยู่กับดวงอีกด้วย


2. น้ำเสียงที่ดีต้องมาก่อน

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจก็จริง แต่การเป็นนักขายเทเลเซลล์มันมองไม่เห็นหน้ากัน ลูกค้าจึงหมดสิทธิ์เห็นหัวใจของคุณ ดังนั้นน้ำเสียงจึงเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือระหว่างคุณกับลูกค้าได้ จงใช้น้ำเสียงที่มั่นใจ ก้องกังวัน ชัดถ้อยชัดคำ ไม่พูดเร็วจนเกินไป มีเทคนิคเพิ่มเติมก็คือเวลาคุยกับลูกค้าต้อง “ยิ้มไปคุยไป” ราวกับอยู่ต่อหน้าพวกเขาจริงๆ ไม่มีใครบอกว่าคุณบ้าแน่นอน เพราะคุณกำลังใช้อินเนอร์ของนักขายที่แท้จริง ต่อให้ลูกค้าไม่เห็นหน้าคุณ เชื่อเถอะว่าลูกค้าย่อมได้ยินเสียงที่น่าเชื่อถือจนสื่อไปถึงจิตใจพวกเขาได้แน่นอน


3. แนะนำตัวเสร็จให้ถามลูกค้าว่า “พอจะมีเวลาสะดวกไหมครับ”

ปกติอาชีพนี้จะมีโพยการคุยจากทางบริษัทกันอยู่แล้ว แต่บางบริษัทก็ไม่มี คุณจึงควรเขียนสคริปต์การแนะนำตัวและนำเสนอสินค้าด้วยตนเองก่อน การดาหน้าคุยตามสคริปต์หลังจากแนะนำตัวโดยไม่ถามว่าจะพอมีเวลาสะดวกมั้ยอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญได้ แต่จะทำยังไงเมื่อถามลูกค้าว่าสะดวกมั้ยก็มักจะถูกปฏิเสธทุกที เคล็ดลับนั้นง่ายนิดเดียว ให้ถามลูกค้าไปก่อนว่าสะดวกไม่เกิน 1 นาทีไหมครับ จากนั้นก็เข้าเรื่องการนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจไปเลย ซึ่งจะพูดต่อในข้อถัดไป


4. เน้นการนำเสนอผลประโยชน์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแบบเนื้อๆ

จงเริ่มเข้าเรื่องเล่าประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้ (Benefits) แบบเน้นๆ ไปเลยทันที ประโยชน์ที่น่าสนใจจะช่วยลดการปฏิเสธหรือกดวางลงได้ ลูกค้าจะเริ่มถอนตัวหรือถอยหนียากขึ้นตราบใดที่พวกเขาทนฟังคุณนานขึ้นนั่นเอง ผลประโยชน์ที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าสนใจจะฟัง คุณต้องทำการวิจัยข้อมูลเบื้องต้นก่อนโทรทุกครั้ง เช่น ชื่อ ตำแหน่ง สินค้าหรือบริการที่เคยซื้อไปแล้ว ฯลฯ การโทรซี้ซั้วแบบไม่มีหางเสือจะมีโอกาสโดนปฏิเสธสูงมาก


5. ปิดการขายด้วยเทคนิค “รวบรัด”

ก่อนที่จะเริ่มปิดการขาย จงอ่านสัญญาณเชิงบวกให้ขาดก่อน ข้อสังเกตง่ายๆ ก็คือตอนคุณเล่าเรื่องผลประโยชน์หรือนำเสนอสิ่งที่พวกเขาจะได้แล้วลูกค้าไม่ได้ปฏิเสธ ตอบรับคุณเป็นระยะๆ หรือตอบคำถามคุณกลับมา จุดนี้จะเป็นจุดที่ใกล้เคียงกับการนำไปสู่การปิดการขาย พูดง่ายๆ คือลูกค้ากำลัง “เมาหมัด” นั่นเองคุณจึงรีบปล่อยหมัดฮุคด้วยการรวบรัดมอบข้อเสนอให้ลูกค้าตัดสินใจด้วยการสรุป เช่น คุณบอกลูกค้าว่า..


“จากสิ่งที่ผมนำเสนอไปเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าเห็นด้วยนะว่าข้อเสนอตามนี้ (บอกราคาและรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน) ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ลูกค้าตกลงนะจะได้ดำเนินการถัดไปต่อเลย…”


6. ปิดการขายด้วยการติดตามงาน

การติดตามงานคือเทคนิคปิดการขายที่ยั่งยืนและชัวร์มากที่สุด ลูกค้าที่คุณขายผ่านโทรศัพท์ส่วนใหญ่จะยังไม่ซื้อในสายแรกเพราะพวกเขายังไม่ไว้ใจคุณนั่นเอง ตอนที่พวกเขากำลังปฏิเสธหรือขอวางสาย อย่าลืมถามพวกเขาทุกครั้งว่าต้องการให้คุณติดต่อใหม่ช่วงไหน ลูกค้าจะบอกมั่วๆ กับคุณ จงจดบันทึกเอาไว้แล้วนำไปใส่ใน CRM หรือ Sales Report เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ให้โทรติดตามงานใหม่แล้วบอกพวกเขาว่าคุณได้บันทึกเอาไว้ว่าลูกค้าให้ติดต่อใหม่วันนี้ เชื่อผมเถอะว่าลูกค้าจะรับฟังข้อเสนอคุณนานขึ้น เปิดใจมากขึ้น คุณจึงติดตามแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนปิดการขายได้เลย


7. โทรให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

การขายผ่านโทรศัพท์เกี่ยวข้องกับปริมาณการยกหูในแต่ละวัน จงกดปุ่มโทรให้มากครั้งที่สุดโดยตัดเวลาอู้งานออกไป เช่น สูบบุหรี่ เดินเตร็ดเตร่บริเวณออฟฟิศ เข้าห้องน้ำบ่อย ฯลฯ จำนวนตัวเลขการโทรเชิงปริมาณจะส่งผลต่อโอกาสการได้ลูกค้าใหม่แน่นอนครับ ส่วนด้านคุณภาพก็คือน้ำเสียง ทักษะการฟัง คำพูดคำจา การติดตามงาน ซึ่งคุณสามารถพัฒนาไปพร้อมๆ กับการโทรเยอะๆ ยิ่งโทรเยอะก็ยิ่งเก่งครับเพราะได้ฝึกฝนการขายผ่านโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา


-----------------------------------------------------------------------------------

สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์

ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้

------------------------------------------------------------------------------------


💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙

📱Tel : 0840104252 📱0947805680

สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)

┏━━━━━━━━━┓

📲 LINE: @chatstick

┗━━━━━━━━━┛

หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM

🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran

🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio

แท็ก:

ดู 171 ครั้ง
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page