Business model คืออะไร❓เจ้าของธุรกิจควรรู้

Business model คืออะไร❓เจ้าของธุรกิจควรรู้
เมื่อเราผ่านการประเมินตนเองและคัดเลือกบริการหรือสินค้าที่นำมาขายได้แล้ว ถ้าเราเริ่มทำธุรกิจหรือขายเลยก็อาจจะขาดทุนได้ หรือมีความเสี่ยงที่ขายไม่ได้สูง ดังนั้นเราควรต้องสร้างโมเดลธุรกิจของเราก่อน หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องมี ถ้าไม่มีแล้วธุรกิจจะล้มเหลวไหม ถ้าคุณโชคดีเลือกสินค้าที่มีความต้องการสูงก็อาจไม่ล้มเหลว แต่ก็จะแข่งขันกับคู่แข่งและเติบโตอย่างมั่นคงได้ยาก การที่เราสร้างโมเดลธุรกิจของเราเองนั้นจะทำให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจได้ และยังลดจุดอ่อนในแต่ละจุดที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่เราดำเนินธุรกิจด้วย
🔹โมเดลธุรกิจ (Business model) คืออะไร
โมเดลธุรกิจก็คือแบบจำลองธุรกิจว่า ธุรกิจของเราจะให้บริการหรือขายอะไร ขายให้ใคร ขายอย่างไร ขายที่ไหน ผลิตด้วยอะไร ใครมาช่วยผลิต และมีรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างไร รวมถึงมีกำไรจากการให้บริการและสินค้าตัวไหนบ้าง ดังนั้นโมเดลธุรกิจควรคิดก่อนการเริ่มธุรกิจ แต่ใครที่ได้ทำธุรกิจไปแล้วก็ยังสามารถนำโมเดลธุรกิจมาปรับปรุงโดยปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น คิดให้เป็นภาพรวมมากขึ้น เครื่องมือที่จะคิดและสร้างโมเดลธุรกิจที่ดีและนิยมใช้กันอย่างมากชื่อ Business Model Canvas (BMC) ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจธุรกิจของเราได้ดีมากขึ้น โดย Business Model Canvas (BMC) นี้เป็น แม่แบบ (template) ที่ช่วยในการออกแบบโมเดลธุรกิจ ซึ่งถูกพัฒนาและนำเสนอโดย Alexander Osterwalder ในหนังสือชื่อ Business model generation ซึ่งมีประโยชน์ในสองเรื่องคือ
- ช่วยแจกแจงองค์ประกอบต่างๆ (มีทั้งหมด 9 ช่อง) ออกมาเพื่อให้เราเข้าใจในโมเดลธุรกิจเราได้
- ทำให้เราฝึกคิดเป็นภาพและจดจำได้ง่ายขึ้น
การสร้างโมแดลธุรกิจนี้เราอาจจะต้องเริ่มจากการคิดว่า สินค้าของเราคืออะไร และจะขายให้ใคร ขายอย่างไร จะใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง จะผลิตอย่างไร และมีกำไรไหม โดยใช้รูปข้างล่างเป็นจุดเริ่มของโมเดลธุรกิจของเรา
🔹ตัวอย่างรูปแบบของ Business Models
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายในที่นี้จะนำตัวอย่างรูปแบบ Business Model ที่ใช้ในธุรกิจมาเป็นตัวอย่าง
- เปิดร้าน
- แฟรนไชส์
- Startup
- เปิดร้านออนไลน์
- Freemium
- สมัครสมาชิก
🔹เปิดร้านขายของหรือบริการ (brick-and-mortar)
เป็นรูปแบบธุรกิจที่เห็นได้ทั่วไป น่าจะเป็นโมเดลธุรกิจเกือบจะส่วนใหญ่ของคนทำธุรกิจ เปิดร้านขายมาขายของ ซื้อของมา + กำไร ขายของให้ลูกค้าโดยการเปิดร้าน เป็นรูปแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีที่มีทำเลก็สามารถเปิดได้ง่ายๆ สามารถบริหารงานคนเดียว หรือ เปิดร้านหลายๆ สาขา หรือการให้บริการเช่น ร้านนวด คลินิกความงาม คลินิกทำฟัน หรือธุรกิจโรงแรม
Key : ขาย –> กำไร –> ขยายสาขา หรือ ขายสินค้าอย่างอื่นเพิ่ม –> ผลิตเอง
บริการ : ขายบริการ –> กำไร –> ขยายสาขา (ลดต้นทุนการบริหาร + กำไรเพิ่ม)
🔹เปิดร้านออนไลน์
รูปแบบคล้ายกับเปิดร้านแบบมีหน้าร้าน แต่ขายของทางออนไลน์แทน รูปแบบการบริหารการขายก็จะแตกต่างกันบางอย่าง เช่น ต้องถ่ายรูป ลงสินค้า โฆษณาออนไลน์ หรือ ต้องมีพนักงานมาตอบแชท หรือเมล์ คนแพคของ
Key : ขาย –> กำไร –> ขายสินค้าอย่างอื่นเพิ่ม –> ผลิตเอง
🔹แฟรนไชส์ Franchise Model
เจ้าของสิทธิ์หรือเจ้าของกิจการ (Franchisor) ให้สิทธิ์รับสิทธิ (Franchisee) ดำเนินธุรกิจภายใต้ระบบบริหารแบบเดียวกันกับธุรกิจของเจ้าของสิทธิ์ โดยเจ้าของสิทธิ์จะได้ค่า License fee จากผู้รับสิทธิ์ ซึ่งคิดเป็น % หรือเป็นรายได้รายปี
ระบบของธุรกิจแฟรนไชส์ เมื่อเลือกใช้อย่างเหมาะสมจะเติบโตได้อย่างมาก ยิ่งโมเดลของต่างประเทศธุรกิจฟาสต์ฟู้ดตะวันตก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่เขาใช้ Business Model นี้มากว่า 100 ปีแล้ว สตาร์บักส์ เคเอฟซี หรือแมคโดนัลด์ ถ้าเป็นของไทยก็คงเป็นคาเฟ่อะมาซอนจาก ปตท. หรือ 7-11 ของเครือ CP
Key : สร้างชื่อเสียงของตัวกิจการ –> ขายแฟรนไชส์ –> ขยายสาขา
🔹Freemium
ฟรีเมี่ยมคือบริการเซอร์วิสแบบฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอด โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นออนไลน์ Application และ Online Service แต่ลูกค้าสามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อใช้บริการที่มากกว่าเดิมได้ (premium) ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่นเกมบนมือถือต่างๆ ที่เล่นฟรีได้แต่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อไอเทมพิเศษ หรือ Spotify หรือ youtube ดูฟรีแต่ถ้าเสียรายเดือนจะไม่มีโฆษณา
โดยเฉพาะ Dropbox Cloud Storage ชื่อดังที่ก่อตั้งในปี 2010 และยึดโมเดลแบบ Freemium มาตลอด ปัจจุบัน Dropbox ให้บริการผู้ใช้ราว 500 ล้านคน ซึ่งมีเพียง 2-4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ Upgrade เป็น Premium แต่กลับทำรายได้มากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2018 (Dropbox ถ้าจะใช้พื้นที่บริการเพิ่มต้องเสียค่าใช้จ่าย)
Key : ปริมาณคนเข้าใช้บริการ –> ขายบริการพิเศษที่เหนือกว่าของฟรี
🔹บอกรับสมาชิก Subscription Model
Subscription Model ถ้าเราคุ้นเคยกันเช่น สมาชิกฟิตเนส สมาชิกเคเบิ้ลทีวี ค่าบริการมือถือ AIS True Dtac แต่การบอกรับสมัครอนาคตใหม่ของการสร้างธุรกิจ โดยบริษัทสายเทคโนโลยีนั้นนิยมใช้โมเดลนี้กันเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น Netflix, Spotify, Apple, Amazon และ Disney Plus ที่นับวันจะรุนแรง และเป็นโมเดลที่่สนใจโดยเฉพาะ Netflix ที่เป็นคน Disrupt วงการเช่าหนัง การดูหนัง และการขายแผ่น DVD ตลอดกาล ด้วยบริการสตรีมมิ่งหนังโมเดล Subscription
ข้อดีของโมเดลนี้คือ การคาดการณ์รายรับในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เพราะนับตามจำนวนสมาชิก ทำให้วัดผลชัดเจนที่สุด โดยโมเดลนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลูกค้าประจำ ทำอย่างไรให้ลูกค้าเป็นสมาชิกกับเราตลอดไป
Key : การรักษาลูกค้าประจำไว้, พัฒนาบริการหรือ content , หาลูกค้าใหม่
🔹Startup
Startup คือธุรกิจที่เปิดบริษัทขึ้นมาใหม่ โดยส่วนใหญ่เราจะเรียก Startup ในธุรกิจด้านไอที และธุรกิจให้เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งจะไม่เน้นทำกำไรเป็นหลักแต่เน้นจำนวนผู้ใช้บริการ โดยมีแนวคิดที่ว่าถ้ามีผู้ใช้บริการเยอะๆ ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยจะลดลง (Economic of scale) ฉะนั้น Business Models ของ Startup จะเน้นที่จะดึงดูดผู้ใช้จำนวนมากให้ใช้บริการ เช่น Uber ที่ยังขาดทุนอยู่ทุกปี แต่ผู้ถือหุ้นก็ยังไว้วางใจลงทุนเพิ่ม เพราะผู้ใช้บริการเยอะขึ้น แม้แต่ LAZADA หรือ Shopee ที่ยังขาดทุนปีละเป็นพันๆ ล้าน เพื่อเพิ่มจำนวนคนเข้าใช้บริการ
Key : เพิ่มจำนวนผู้ใช้ –> ทำ Big data –> กำไร
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Kommentare