top of page

การใช้ AI ในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงทางออนไลน์

  • รูปภาพนักเขียน: chatstickforbrand
    chatstickforbrand
  • 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
  • ยาว 2 นาที




Blockchain เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่ทำให้เรารู้ "ที่มาที่ไป" ของทุกสิ่ง! 



1. รู้จักกันหน่อย! Blockchain คืออะไร? ทำไมต้องสนใจด้วยนะ? 



โลกยุคใหม่กระหายใคร่รู้ในทุกสิ่ง! เคยฉุกคิดไหมว่ากาแฟหอมกรุ่นยามเช้าเดินทางมาจากไร่แห่งใด? เสื้อผ้าที่เราสวมใส่มีเรื่องราวการผลิตอย่างไร? ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น ผู้บริโภคจึงโหยหาความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อความมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้า แล้วอะไรล่ะที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้? 



 



ขอแนะนำพระเอกของเรา: Blockchain ในบทบาท "นักสืบตามรอยสินค้า"! อย่าเพิ่งคิดว่า Blockchain เป็นเรื่องของเงินดิจิทัลอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้วมันคือเทคโนโลยีที่สามารถบันทึกทุกขั้นตอนการเดินทางของสินค้า ตั้งแต่เมล็ดกาแฟถูกเพาะปลูก ไปจนถึงการแปรรูปเป็นกาแฟแก้วโปรดในมือคุณ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกเป็น "บล็อก" ที่เชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนาในรูปแบบของ "ห่วงโซ่" (Chain) ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง ไม่สามารถแก้ไขหรือลบทิ้งได้โดยพลการ นี่คือเสน่ห์อันเย้ายวนของ Blockchain! 



 



หลักการทำงานของ Blockchain นั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ลองจินตนาการถึงสมุดบัญชีสาธารณะที่ทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และที่สำคัญคือไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลย้อนหลังได้ นั่นคือหัวใจสำคัญของ Blockchain! ทำให้ข้อมูลทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญ เพียงแค่สแกน QR Code บนผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคก็สามารถเข้าถึงประวัติการเดินทางของสินค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่แหล่งที่มา กระบวนการผลิต ไปจนถึงมาตรฐานการรับรองต่างๆ 



 



2. ย้อนรอยอดีต: Blockchain ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวานนะ! 



จุดเริ่มต้นของ Blockchain นั้นไม่ได้หวือหวา แต่เป็นการบ่มเพาะแนวคิดมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปในปี 1991 นักวิจัยอย่าง Stuart Haber และ Wakefield Scott Stornetta ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับห่วงโซ่ข้อมูลที่ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส แต่กว่าแนวคิดนี้จะเบ่งบานเป็นรูปธรรม ก็ต้องรอจนถึงปี 2008 เมื่อ Satoshi Nakamoto (นามแฝง) ได้นำเสนอโมเดลและแอปพลิเคชันของ Blockchain จนกระทั่ง Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลแรกของโลกได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 



 



จากโลกคริปโต สู่โลกแห่งสินค้า: ในช่วงแรก Blockchain เป็นที่รู้จักและใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการคริปโตเคอร์เรนซี แต่ด้วยศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด ทำให้เริ่มมีการมองเห็นโอกาสในการประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างที่โดดเด่นคือในปี 2016 ที่ IBM ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จับมือกับ Walmart บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ และมหาวิทยาลัยชิงหวา ในการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาหารในประเทศจีน โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งสามารถลดระยะเวลาการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์จาก 7 วัน เหลือเพียง 2.2 วินาทีเท่านั้น! นับเป็นการปฏิวัติวงการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอย่างแท้จริง 



 



แล้วประเทศไทยล่ะ? ไม่น้อยหน้าใคร! ประเทศไทยเองก็ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ได้เริ่มนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ไก่สดและหมูสดตั้งแต่ปี 2022 และขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในปีถัดมา นอกจากนี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ก็ได้ริเริ่มโครงการนำ Blockchain มาใช้ตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร โดยมีข้าวอินทรีย์เป็นสินค้านำร่องตั้งแต่ปี 2019 แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี Blockchain ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย 



 



3. ข้อดีสุดปัง! ทำไมใครๆ ก็หลงรัก Blockchain ในวงการสินค้า? 



โปร่งใสจนหาที่ติไม่ได้: หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Blockchain คือความโปร่งใสอย่างแท้จริง ด้วยระบบบันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา กระบวนการผลิต มาตรฐานการรับรอง และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน ผู้บริโภคจึงสามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ตนเองซื้อนั้นเป็นของแท้ มีคุณภาพ และปลอดภัย 



 



บอกลาของปลอม ของย้อมแมว: ปัญหาการปลอมแปลงสินค้าเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ แต่ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกบันทึกและเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้การปลอมแปลงสินค้าหรือข้อมูลเป็นเรื่องที่ยากมากหรือไม่สามารถทำได้เลย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายสินค้าปลอม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค 



 



ห่วงโซ่อุปทานเวอร์ชัน "ติดเทอร์โบ": การติดตามและตรวจสอบสินค้าในห่วงโซ่อุปทานแบบเดิมนั้นอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน แต่ด้วย Blockchain ทำให้กระบวนการเหล่านี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ลดการใช้เอกสาร ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ และทำให้ทุกขั้นตอนในห่วงโซ่อุปทานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ 



 



เรื่องความยั่งยืนก็มา: ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น Blockchain จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและยืนยันว่าวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้านั้นมาจากแหล่งที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม เช่น ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า หรือมีการใช้แรงงานที่เป็นธรรม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง 



 



4. ไม่ได้มีแต่ด้านดีเสมอไปนะ! ข้อท้าทายที่ต้องรู้ก่อนลุย 



แพงจังเลย! แล้วใครจะใช้ได้ล่ะ?: การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้านั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หรือเกษตรกรรายย่อย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงและนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ นอกจากนี้ ระบบ Blockchain ยังมีความซับซ้อนทางเทคนิค ทำให้ต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาดูแลและบำรุงรักษา 



 



ข้อมูลดีแค่ไหน? Blockchain ไม่ใช่ "เครื่องจักรเสกความจริง"!: สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ Blockchain เป็นเพียงระบบบันทึกข้อมูล ไม่ใช่ระบบที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ หากข้อมูลที่ป้อนเข้าไปในระบบตั้งแต่แรกไม่ถูกต้อง Blockchain ก็จะบันทึกและยืนยันความจริงที่ไม่ถูกต้องนั้นต่อไป ดังนั้น การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตั้งแต่ต้นทางจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง 



 



ความรู้ยังน้อย คนยังไม่เข้าใจ: เทคโนโลยี Blockchain ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ยังมีจำนวนจำกัด ทำให้การนำไปใช้ในวงกว้างเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนอาจยังไม่เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงและยังคงยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิมๆ 



 



กฎหมายยังไม่ชัดเจน เล่นยังไงให้สบายใจ?: ในปัจจุบัน กฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain ยังไม่ครอบคลุมและไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากกังวลว่าอาจมีปัญหาทางกฎหมายตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการบังคับใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ 



 



ช้ากว่าฐานข้อมูลปกติรึเปล่า?: สำหรับการใช้งานบางประเภทที่ต้องการความเร็วในการประมวลผลข้อมูลสูงๆ ฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ (Centralized Database) อาจมีประสิทธิภาพและความเร็วที่เหนือกว่า Blockchain เนื่องจากระบบ Blockchain ต้องมีการยืนยันข้อมูลจากหลายๆ ฝ่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก 



 



5. อนาคตสดใส หรือแค่ฝันไป? Blockchain จะไปทางไหนต่อไป? 



จับมือเทคโนโลยีอื่น: พลังคูณสาม!: ในอนาคต Blockchain จะไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่จะผนึกกำลังกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น IoT (Internet of Things), AI (Artificial Intelligence) และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการเก็บข้อมูล การติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำนายปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 



 



มาตรฐานและกฎหมายจะตามมา: ไม่ต้องกังวลว่ากฎหมายจะตามไม่ทัน เพราะหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนากฎระเบียบและมาตรฐานที่ชัดเจนและครอบคลุม เพื่อสนับสนุนการนำ Blockchain มาใช้อย่างมั่นใจและเป็นสากล รวมถึงแก้ไขปัญหาความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบต่างๆ 



 



ขยายไปทุกวงการ: Blockchain จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการอาหารและสินค้าเกษตรเท่านั้น แต่จะขยายไปสู่หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น วงการเพลงและลิขสิทธิ์ วงการสินค้าแบรนด์เนม และวงการอื่นๆ ที่ต้องการความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ 



 



โมเดลธุรกิจใหม่ๆ กำลังจะเกิด: ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของ Blockchain จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่เน้นความรับผิดชอบและความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ 



 



ใช้ง่ายขึ้น ราคาจับต้องได้ขึ้น: ในอนาคต เราจะได้เห็นแพลตฟอร์ม Blockchain ที่ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน และมีต้นทุนที่ต่ำลง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้ง่ายขึ้น 



 



บทสรุป: 



Blockchain สำหรับการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ศักยภาพของมันที่จะทำให้โลกโปร่งใสขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นสูงอย่างน่าจับตา! ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าในอนาคตอันใกล้ Blockchain จะพลิกโฉมโลกของเราไปได้ขนาดไหน!



#ChatStick #สติกเกอร์ไลน์ #สร้างแบรนด์ #รับวาดสติกเกอร์ #สติกเกอร์น่ารัก #รับวาดการ์ตูน #สติ๊กเกอร์แจกฟรี #EventSticker #สติ๊กเกอร์ประจำแบรนด์ #LINE #StickerLINE #รับออกแบบ #ดูแลเพจ #แจกสติกเกอร์ไลน์ #VDOMotion #ร้านค้าออนไลน์ #สร้างLINEOA





------------------------------------------------------------------------------------



สนใจบริการ รับออกแบบการ์ตูน คาแรคเตอร์ โลโก้ วาดตัวมาสคอต โดยมืออาชีพ | บริการรับออกแบบมาสคอต ออกแบบตัวการ์ตูน Character รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ภาพวาด | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ภาพถ่าย | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ดารา | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ศิลปิน | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์นักร้อง | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์บริษัท | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์องค์กร| รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์อนิเมชั่น | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์อนิเมชั่น | รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์เคลื่อนไหวได้ | รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊ก | รับทำAnimated Sticker Line | Animated Stickers



"StickerLine สติ๊กเกอร์ไลน์รูปถ่าย สติ๊กเกอร์ไลน์รูปภาพ สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง





ตัวอย่าง ผลงานออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ บริษัท แบรนด์ และ องค์กร



>> https://www.chatstickmarket.com/stickerport 



ตัวอย่าง ผลงานออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ ศิลปิน ดารา และ ผู้มีชื่อเสียง



>> https://www.chatstickmarket.com/celebport 



ตัวอย่าง ตัวอย่างผลงานมาสคอต (Mascot) ธุรกิจ องค์กร และ ศิลปิน



>> https://www.chatstickmarket.com/mascotport 



------------------------------------------------------------------------------------





💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙



📱Tel : 0840104252 📱0947805680



📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH 



┏━━━━━━━━━┓



📲 LINE: @chatstick



┗━━━━━━━━━┛



หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM 



🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/langran

Blockchain เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่ทำให้เรารู้ "ที่มาที่ไป" ของทุกสิ่ง!


1. รู้จักกันหน่อย! Blockchain คืออะไร? ทำไมต้องสนใจด้วยนะ?


โลกยุคใหม่กระหายใคร่รู้ในทุกสิ่ง! เคยฉุกคิดไหมว่ากาแฟหอมกรุ่นยามเช้าเดินทางมาจากไร่แห่งใด? เสื้อผ้าที่เราสวมใส่มีเรื่องราวการผลิตอย่างไร? ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น ผู้บริโภคจึงโหยหาความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อความมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้า แล้วอะไรล่ะที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้?



ขอแนะนำพระเอกของเรา: Blockchain ในบทบาท "นักสืบตามรอยสินค้า"! อย่าเพิ่งคิดว่า Blockchain เป็นเรื่องของเงินดิจิทัลอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้วมันคือเทคโนโลยีที่สามารถบันทึกทุกขั้นตอนการเดินทางของสินค้า ตั้งแต่เมล็ดกาแฟถูกเพาะปลูก ไปจนถึงการแปรรูปเป็นกาแฟแก้วโปรดในมือคุณ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกเป็น "บล็อก" ที่เชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนาในรูปแบบของ "ห่วงโซ่" (Chain) ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง ไม่สามารถแก้ไขหรือลบทิ้งได้โดยพลการ นี่คือเสน่ห์อันเย้ายวนของ Blockchain!



หลักการทำงานของ Blockchain นั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ลองจินตนาการถึงสมุดบัญชีสาธารณะที่ทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และที่สำคัญคือไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลย้อนหลังได้ นั่นคือหัวใจสำคัญของ Blockchain! ทำให้ข้อมูลทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญ เพียงแค่สแกน QR Code บนผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคก็สามารถเข้าถึงประวัติการเดินทางของสินค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่แหล่งที่มา กระบวนการผลิต ไปจนถึงมาตรฐานการรับรองต่างๆ



2. ย้อนรอยอดีต: Blockchain ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวานนะ!


จุดเริ่มต้นของ Blockchain นั้นไม่ได้หวือหวา แต่เป็นการบ่มเพาะแนวคิดมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปในปี 1991 นักวิจัยอย่าง Stuart Haber และ Wakefield Scott Stornetta ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับห่วงโซ่ข้อมูลที่ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส แต่กว่าแนวคิดนี้จะเบ่งบานเป็นรูปธรรม ก็ต้องรอจนถึงปี 2008 เมื่อ Satoshi Nakamoto (นามแฝง) ได้นำเสนอโมเดลและแอปพลิเคชันของ Blockchain จนกระทั่ง Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลแรกของโลกได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009



จากโลกคริปโต สู่โลกแห่งสินค้า: ในช่วงแรก Blockchain เป็นที่รู้จักและใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการคริปโตเคอร์เรนซี แต่ด้วยศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด ทำให้เริ่มมีการมองเห็นโอกาสในการประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างที่โดดเด่นคือในปี 2016 ที่ IBM ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จับมือกับ Walmart บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ และมหาวิทยาลัยชิงหวา ในการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาหารในประเทศจีน โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งสามารถลดระยะเวลาการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์จาก 7 วัน เหลือเพียง 2.2 วินาทีเท่านั้น! นับเป็นการปฏิวัติวงการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอย่างแท้จริง



แล้วประเทศไทยล่ะ? ไม่น้อยหน้าใคร! ประเทศไทยเองก็ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ได้เริ่มนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ไก่สดและหมูสดตั้งแต่ปี 2022 และขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในปีถัดมา นอกจากนี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ก็ได้ริเริ่มโครงการนำ Blockchain มาใช้ตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร โดยมีข้าวอินทรีย์เป็นสินค้านำร่องตั้งแต่ปี 2019 แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี Blockchain ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย



3. ข้อดีสุดปัง! ทำไมใครๆ ก็หลงรัก Blockchain ในวงการสินค้า?


โปร่งใสจนหาที่ติไม่ได้: หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Blockchain คือความโปร่งใสอย่างแท้จริง ด้วยระบบบันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา กระบวนการผลิต มาตรฐานการรับรอง และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน ผู้บริโภคจึงสามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ตนเองซื้อนั้นเป็นของแท้ มีคุณภาพ และปลอดภัย



บอกลาของปลอม ของย้อมแมว: ปัญหาการปลอมแปลงสินค้าเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ แต่ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกบันทึกและเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้การปลอมแปลงสินค้าหรือข้อมูลเป็นเรื่องที่ยากมากหรือไม่สามารถทำได้เลย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายสินค้าปลอม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค



ห่วงโซ่อุปทานเวอร์ชัน "ติดเทอร์โบ": การติดตามและตรวจสอบสินค้าในห่วงโซ่อุปทานแบบเดิมนั้นอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน แต่ด้วย Blockchain ทำให้กระบวนการเหล่านี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ลดการใช้เอกสาร ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ และทำให้ทุกขั้นตอนในห่วงโซ่อุปทานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ



เรื่องความยั่งยืนก็มา: ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น Blockchain จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและยืนยันว่าวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้านั้นมาจากแหล่งที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม เช่น ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า หรือมีการใช้แรงงานที่เป็นธรรม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง



4. ไม่ได้มีแต่ด้านดีเสมอไปนะ! ข้อท้าทายที่ต้องรู้ก่อนลุย


แพงจังเลย! แล้วใครจะใช้ได้ล่ะ?: การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้านั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หรือเกษตรกรรายย่อย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงและนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ นอกจากนี้ ระบบ Blockchain ยังมีความซับซ้อนทางเทคนิค ทำให้ต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาดูแลและบำรุงรักษา



ข้อมูลดีแค่ไหน? Blockchain ไม่ใช่ "เครื่องจักรเสกความจริง"!: สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ Blockchain เป็นเพียงระบบบันทึกข้อมูล ไม่ใช่ระบบที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ หากข้อมูลที่ป้อนเข้าไปในระบบตั้งแต่แรกไม่ถูกต้อง Blockchain ก็จะบันทึกและยืนยันความจริงที่ไม่ถูกต้องนั้นต่อไป ดังนั้น การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตั้งแต่ต้นทางจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง



ความรู้ยังน้อย คนยังไม่เข้าใจ: เทคโนโลยี Blockchain ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ยังมีจำนวนจำกัด ทำให้การนำไปใช้ในวงกว้างเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนอาจยังไม่เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงและยังคงยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิมๆ



กฎหมายยังไม่ชัดเจน เล่นยังไงให้สบายใจ?: ในปัจจุบัน กฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain ยังไม่ครอบคลุมและไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากกังวลว่าอาจมีปัญหาทางกฎหมายตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการบังคับใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์



ช้ากว่าฐานข้อมูลปกติรึเปล่า?: สำหรับการใช้งานบางประเภทที่ต้องการความเร็วในการประมวลผลข้อมูลสูงๆ ฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ (Centralized Database) อาจมีประสิทธิภาพและความเร็วที่เหนือกว่า Blockchain เนื่องจากระบบ Blockchain ต้องมีการยืนยันข้อมูลจากหลายๆ ฝ่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก



5. อนาคตสดใส หรือแค่ฝันไป? Blockchain จะไปทางไหนต่อไป?


จับมือเทคโนโลยีอื่น: พลังคูณสาม!: ในอนาคต Blockchain จะไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่จะผนึกกำลังกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น IoT (Internet of Things), AI (Artificial Intelligence) และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการเก็บข้อมูล การติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำนายปัญหาที่อาจเกิดขึ้น



มาตรฐานและกฎหมายจะตามมา: ไม่ต้องกังวลว่ากฎหมายจะตามไม่ทัน เพราะหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนากฎระเบียบและมาตรฐานที่ชัดเจนและครอบคลุม เพื่อสนับสนุนการนำ Blockchain มาใช้อย่างมั่นใจและเป็นสากล รวมถึงแก้ไขปัญหาความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบต่างๆ



ขยายไปทุกวงการ: Blockchain จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการอาหารและสินค้าเกษตรเท่านั้น แต่จะขยายไปสู่หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น วงการเพลงและลิขสิทธิ์ วงการสินค้าแบรนด์เนม และวงการอื่นๆ ที่ต้องการความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ



โมเดลธุรกิจใหม่ๆ กำลังจะเกิด: ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของ Blockchain จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่เน้นความรับผิดชอบและความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ



ใช้ง่ายขึ้น ราคาจับต้องได้ขึ้น: ในอนาคต เราจะได้เห็นแพลตฟอร์ม Blockchain ที่ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน และมีต้นทุนที่ต่ำลง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้ง่ายขึ้น



บทสรุป:


Blockchain สำหรับการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ศักยภาพของมันที่จะทำให้โลกโปร่งใสขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นสูงอย่างน่าจับตา! ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าในอนาคตอันใกล้ Blockchain จะพลิกโฉมโลกของเราไปได้ขนาดไหน!


#ChatStick #สติกเกอร์ไลน์ #สร้างแบรนด์ #รับวาดสติกเกอร์ #สติกเกอร์น่ารัก #รับวาดการ์ตูน #สติ๊กเกอร์แจกฟรี #EventSticker #สติ๊กเกอร์ประจำแบรนด์ #LINE #StickerLINE #รับออกแบบ #ดูแลเพจ #แจกสติกเกอร์ไลน์ #VDOMotion #ร้านค้าออนไลน์ #สร้างLINEOA



------------------------------------------------------------------------------------


สนใจบริการ รับออกแบบการ์ตูน คาแรคเตอร์ โลโก้ วาดตัวมาสคอต โดยมืออาชีพ | บริการรับออกแบบมาสคอต ออกแบบตัวการ์ตูน Character รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ภาพวาด | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ภาพถ่าย | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ดารา | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ศิลปิน | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์นักร้อง | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์บริษัท | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์องค์กร| รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์อนิเมชั่น | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์อนิเมชั่น | รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์เคลื่อนไหวได้ | รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊ก | รับทำAnimated Sticker Line | Animated Stickers


"StickerLine สติ๊กเกอร์ไลน์รูปถ่าย สติ๊กเกอร์ไลน์รูปภาพ สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง



ตัวอย่าง ผลงานออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ บริษัท แบรนด์ และ องค์กร



ตัวอย่าง ผลงานออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ ศิลปิน ดารา และ ผู้มีชื่อเสียง



ตัวอย่าง ตัวอย่างผลงานมาสคอต (Mascot) ธุรกิจ องค์กร และ ศิลปิน



------------------------------------------------------------------------------------



💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙


📱Tel : 0840104252 📱0947805680



┏━━━━━━━━━┓


📲 LINE: @chatstick


┗━━━━━━━━━┛


หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM 


🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/langran


ความคิดเห็น


CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม2_2.png
CS_Redesign_คอนเทนต์เดิม3.png
Recent Posts
c24f0332fa3b87f8a304140403b893510_64100212_210625.jpg
244712625_300456528129611_2152723951836713111_n.jpg
5.png
4.png
Button Event สติกเกอร์.png
2.png
Button ChatStick Market.png
bottom of page