Like Page เพียบแต่ Like Post เงียบ ทำไงดี❓
Like Page เพียบแต่ Like Post เงียบ ทำไงดี❓
หลังๆ มานี้ผู้ประกอบการ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายท่านอาจจะเริ่มสังเกตเห็นถึงความเงียบแบบแปลกๆ ของ Facebook ทั้งๆ ที่ตัวเพจคุณเองก็มีคนไลค์เยอะมาก ทำการตลาดเรียกยอดไลค์มาได้ตามเป้า แต่กลับกันเวลาโพสต์อะไรแต่ละครั้ง กลับมีคนกดไลค์ หรือเข้ามาคอมเมนท์น้อยจนน่าตกใจ
ซึ่งเรื่องนี้น้อยคนนักที่จะรู้ว่า Facebook จะแสดงโชว์โพสต์ของเราให้ลูกเพจหรือคนที่กดไลค์มองเห็นไม่ถึง 10% เสียด้วยซ้ำ เข่น ถ้าคุณมีเพจที่มียอดไลค์หลัก 10,000 คุณโพสต์หนึ่งที จะมีคนเห็นเพียง 700-800 คน ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น้อยมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ คุณต้องทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่จะทำให้ Facebook จัดอันดับโพสต์ของคุณให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
🔹Edgerank คะแนนความประพฤติที่ Facebook ใช้วัดคุณค่าโพสต์
ในการโพสต์แต่ละครั้งนั้น Facebook จะมีการจัดอันดับคะแนนความประพฤติอยู่ด้วย ซึ่งหลังจากที่โพสต์ออกไปแล้ว Facebook จะทำการคำนวณจากปัจจัยต่างๆ เพื่อคัดกรองว่าโพสต์นั้นควรแสดงให้ใครเห็นบ้าง ซึ่งค่าคะแนนตรงนี้จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณไม่มีการเคลื่อนไหวเพจเป็นเวลานาน ยิ่งทำให้คะแนนต่ำลง จนเมื่อคุณห่างไกลการโพสต์ไปเป็นเดือน กลับมาโพสต์อีกครั้งคุณอาจจะมีคนกดไลค์เพจแค่หลักหน่วยก็ได้
🔹3 ปัจจัยที่มีผลต่อ Engagement และทำให้คนกดไลค์ คอมเมนท์ น้อยลง
การจัดอันดับคะแนนความประพฤตินั้น Facebook ได้ใช้เกณฑ์ ตัวแปร 3 อย่างนี้เป็นหลัก ดังนี้
1. Affinity ความใกล้ชิดของคนคนนั้น ถ้าเขาเคยมากดไลค์ คอมเมนท์ โพสต์คุณมากเท่าไหร่ เขาก็จะได้เห็นโพสต์ใหม่ๆ เยอะเท่านั้น
2. Weight วัดจากตัวโพสต์นั้นๆ ถ้าเป็นโพสต์ที่มีคนกดไลค์ คนคอมเมนท์สูง ก็มีโอกาสโชว์ให้ลูกเพจเห็นได้มากขึ้น
3. Time Decay สุดท้ายคือ เวลาที่ล่วงเลยไป ยิ่งโพสต์ไปนานเท่าไหร่ จำนวนคนเห็นก็จะน้อยลงเรื่อยๆ
🔹วิธีทำให้มีคนเห็นโพสต์เยอะๆ
1. การใส่ใจกับการเขียนเนื้อหา หรือ “Content is The King” คำๆ นี้ยังคงใช้ได้ดีเสมอมา อยากให้หันมาใส่ใจในรายละเอียดของเนื้อหา หรือบทความที่เราจะโพสต์ลงไปใน Facebook Fanpage สักนิดนึง หากใครที่ก้าวเข้ามาสู่วงการในการทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ Facebook เป็นช่องทางในการตี ตลาดออนไลน์ นั้น การเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ โดยเราจะต้องมีการโพสต์ ข้อมูลต่างๆ ในแต่ละวัน และควรจะมีการโพสต์ให้เพจมีการเคลื่อนไหวในทุกๆ วันด้วยค่ะ เพราะปัจจุบัน Facebook ใส่ใจกับเนื้อหามากขึ้น ถ้าเพจของคุณโพสต์แต่เนื้อหาเดิมๆ ซ้ำๆ รูปภาพก็ใช้ของเก่ามีรีโพสต์ใหม่ บอกเลยว่า อยู่ลำบาก!!
2. การมีส่วนร่วมของลูกเพจ ส่วนตรงนี้ค่อนข้างมีความสำคัญมากทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการ Comment, Like, Share โพสต์ของลูกเพจ จะเป็นส่วนช่วยในการทำให้มีคนเห็นโพสต์ของเรามากยิ่งขึ้น เพราะโพสต์จะถูกนำไปแสดงให้เพื่อน และเพื่อนของเพื่อนเห็น กระจายต่อกันไปเรื่อยๆ ในบางเพจที่มีการขายของต่างๆ บนแฟนเพจของตัวเอง พยายามอย่าโพสต์แต่สินค้าที่ขายนะคะ ควรโพสต์อย่างอื่นบ้าง แชร์ลิงค์ แชร์บทความที่เป็นความรู้ หรือเกี่ยวข้องกับสินค้า หรือบริการของทางร้าน เป็นต้น เพราะหากเน้นแต่การขายของ มันก็น่าเบื่อนะคุณ บางทีแฟนเพจของคุณอาจโบกมือลาเลยก็เป็นได้
3. ขอให้แฟนเพจกดรับการแจ้งเตือน มันอาจฟังดูเป็นเรื่องยากนะคะ ถ้าเพจของคุณไม่เจ๋งจริงๆ จะมีใครสักกี่คนกันเชียวที่จะมากด รับการแจ้งเตือนจากเพจของเรา แต่นี่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้แฟนเพจของคุณได้รับเห็นเมื่อคุณโพสต์อะไรใหม่ๆ ลงไปบนแฟนเพจ เพราะเมื่อคุณโพสต์ ก็จะมีการเด้งแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานให้กดเข้ามาดูโพสต์นั้นนั่นเอง
4. สร้างโพสต์ที่น่ามองน่าอ่าน คุณจะต้องทำการสร้างโพสต์ของคุณให้น่ามอง น่าคลิกเข้ามาอ่าน โดยในการโพสต์แต่ละครั้งจะต้องมีรูปภาพประกอบกับเนื้อหาหรือบทความต่างๆ จะเป็นข้อความขนาดยาว หรือสั้นๆ ก็ได้ อย่าโพสต์แต่ตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว หรือโพสต์รูปเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีคำบรรยายใดๆ เลยเพราะเวลาโพสต์ขึ้นบน New Feed จะทำให้ดูโดดเด่น สะดุดตา น่ามอง น่าคลิกเข้ามาอ่านมากขึ้น
5. เวลาเป็นสิ่งสำคัญ สำคัญมากทีเดียวค่ะ เพราะคุณจะได้สามารถคาดเดาได้ว่า ช่วงเวลาไหนที่ลูกเพจของคุณกำลังใช้งาน Facebook กันมากที่สุด คุณก็เลือกโพสต์ในช่วงเวลานั้น และนั่นจะเป็นการทำให้มีโอกาสที่คนจะเห็นโพสต์ของเราได้สูงกว่า ทำให้มี Feedback ที่ดีกว่านั่นเอง โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ที่ หน้าแฟนเพจคุณ>ข้อมูลเชิงลึก>โพสต์ โดยขอแนะนำว่าวันนึงควรโพสต์ได้ 3 เวลา คือ
– ช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.00 – 8.00 น.
– ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 11.00 – 14.00 น.
– ช่วงเย็น เวลาประมาณ 18.00 – 21.30 น.
เพราะช่วงเวลาเหล่านี้เป็นช่วงระหว่างการเดินทางไปทำงานตอนเช้า การพักตอนเที่ยง และตอนเย็นหลังเลิกงานนั่นเอง บรรดาผู้คนทั้งหลายก็จะมีเวลาว่างในการเช็ค New Feed จึงทำให้มีโอกาสสูงที่จะมีคนเห็นโพสต์
หากไม่สะดวกจะมานั่งโพสต์ตามเวลาที่กล่าวมาก ก็สามารถตั้งเวลาในการโพสต์ล่วงหน้าเอาไว้ได้นะคะ อย่าปล่อยให้หน้าแฟนเพจ รกร้าง ว่างเปล่า และเน่าบูดล่ะ
6. สุดท้ายและท้ายที่สุดคือการเลือกซื้อโฆษณาในการโปรโมทโพสต์ (promote post) ก็อย่างว่าแหละค่ะ Facebook ลดปริมาณการมองเห็นโพสต์แบบ Organic ลงไปเยอะมาก และถ้าเราพยายามกับการทำ Content แล้วแต่ Feedback ก็ยังไม่โอเค นั่นก็ยากต่อการเติบโตในเส้นทางนี้ และนี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพื่อจะช่วยให้คุณหายใจต่อไปได้อีก นั่นคือการซื้อ โฆษณา Facebook เพื่อโปรโมทโพสต์ (Boot Post) ให้มีคนเห็นเยอะๆ นั่นเอง
-----------------------------------------------------------------------------------
สนใจบริการดูแลการตลาดออนไลน์ | ทำการตลาดออนไลน์ | ทำกราฟฟิคครบวงจร | สามารถติดต่อเราได้ตลอด | รับสร้างแบรนด์ | รับทำการตลาดออนไลน์ | รับทำแผนการตลาดออนไลน์ | รับสร้างแบรนด์ | รับดูแล Facebook แฟนเพจ | รับดูแล LINE OA สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดบริการดูแลการตลาดออนไลน์
ตัวอย่าง ผลงานแบรนด์ต่างๆ ที่เราดูแลการตลาดออนไลน์ให้
------------------------------------------------------------------------------------
💙ปรึกษาทีมงานของเรา💙
📱Tel : 0840104252 📱0947805680
สายด่วนออฟฟิศ : 034-900-165 , 02-297-0811 (จันทร์-ศุกร์)
📨 Inbox : http://m.me/ChatStick.TH
┏━━━━━━━━━┓
📲 LINE: @chatstick
┗━━━━━━━━━┛
หรือคลิ๊ก https://goo.gl/KuzCpM
🎉รายละเอียดที่ http://www.chatstickmarket.com/langran
🎉ชมผลงานเราได้ที่ https://www.chatstickmarket.com/portfolio
Comments